รัฐบาลทรัมป์เพิ่มข้อยกเว้นระงับช่วยเหลือต่างชาติ เพื่อขอเวลาประเมิน 90 วันว่าสอดคล้องกับนโยบาย “อเมริกามาก่อน” หรือไม่?

เมื่อวันที่ 29 ม.ค.68 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เกี่ยวกับการเพิ่มข้อยกเว้นสำหรับการบังคับใช้มาตรการระงับการให้ความช่วยเหลือแก่ต่างชาติ ตามคำสั่งฝ่ายบริหารที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามในวันแรกหลังทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งฯ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการเพิ่มข้อยกเว้นข้างต้น จะมีขึ้นเป็นเวลา 90 วัน เพื่อที่รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ จะได้ประเมินอีกครั้งว่า ความช่วยเหลือต่างชาติดังกล่าวนั้น สอดคล้องกับนโยบายอเมริกามาก่อน หรืออเมริกาเฟิร์สท์ (America First) หรือไม่ ภายหลังจากเมื่อวันศุกร์สัปดาห์ที่แล้ว ทางการสหรัฐฯ ได้ประกาศข้อยกเว้นมาตรการระงับการให้ความช่วยเหลือต่างชาติมาครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นกรณีการให้ความช่วยเหลือทางการทหารแก่อิสราเอลและอียิปต์

โดยนายรูบิโอ เปิดเผยว่า ข้อยกเว้นที่เพิ่มขึ้นมาได้แก่ ความช่วยเหลือในการช่วยชีวิต หรือการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในการช่วยชีวิต ซึ่งได้กำหนดคำนิยามว่า หมายถึง การให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับยาหลักในการช่วยชีวิต การบริการทางการแพทย์ อาหาร ที่พัก การยังชีพ สิ่งของ และค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล แต่ไม่ครอบคลุมในเรื่องการทำแท้ง การประชุมวางแผนครอบครัว การผ่าตัดแปลงเพศ และการช่วยเหลืออื่นๆที่ไม่ใช่การช่วยชีวิต

รายงานข่าวแจ้งว่า คำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่บังคับใช้มาตรการระงับการให้ความช่วยเหลือแก่ต่างชาติข้างต้นนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อโครงการให้ความช่วยเหลือแก่ต่างชาติโดยสหรัฐฯ หลายโครงการ รวมถึงโครงการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งมีผู้อพยพราว 1 แสนคนต้องถูกสั่งปิด หลังจากที่สหรัฐฯ ระงับการให้เงินช่วยเหลือคณะกรรมการกู้ภัยระหว่างประเทศ หรือไออาร์ซี