วันที่ 29 มกราคม 2568 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบรรดานักร้องพากันมาร้องเรื่องคุณสมบัติของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทยว่าขาดคุณสมบัติว่า พรรคเพื่อไทยมีฝ่ายกฎหมาย โดยเฉพาะที่ นายทักษิณ มาช่วยหาเสียง เราได้ศึกษาข้อกฎหมาย ระเบียบของ กกต. ครบถ้วน และ กกต. ไม่ได้พูดถึงคุณสมบัติผู้ช่วยหาเสียง กำหนดแค่ว่า ผู้ช่วยหาเสียง ต้องเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง และไม่ได้กำหนดด้วยว่า ต้องเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขตที่ไปหาเสียงดัวย ดังนั้นนายทักษิณ ไม่ขาดคุณสมบัติ สิ่งที่เราตั้งข้อสังเกตเวทีโค้งสุดท้ายที่ จ.เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน เราขึ้นมาหลายเวทีและพูดก่อนหน้านั้นตั้งแต่เวทีอบจ.อุดรธานี อุบลราชธานี ก็ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเป็นไปได้หรือสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย หรือกฎระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับ กกต. ออกมาพูด แต่นี่ กกต. ยังไม่พูดอะไร ปราศรัยทุกทีมีแค่ผู้สมัครต้องระวังอะไรบ้าง อีกทั้งการหาเสียงรอบนี้ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ก็เป็นการแข่งขันนโยบายต่อประชาชน ไม่หนักใจอะไร พรรคเพื่อไทยดูข้อกฎหมายเรียบร้อยแล้ว คุณสมบัติก็ไม่ได้มีกำกับไว้ นายทักษิณ มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้

เมื่อถามว่า คิดว่าการมาปล่อยข่าวช่วงโค้งสุดท้ายต้องการอะไร นายอนุสรณ์ มองว่า กระแสผู้สมัครพรรคเพื่อไทยช่วงออกตัวออกสตาร์ทดี แต่ไม่ดีขนาดนี้ แต่พอผ่านไปหลายเวทีเห็นชัดเจนว่าผู้สมัครที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาล ผู้สมัครที่ไม่มีส่วนยึดโยงกับรัฐบาล กับผู้สมัครเพื่อไทยที่เป็นพรรครัฐบาล เวลาจะขับเคลื่อนนโยบายสามารถเชื่อมประสานการทำงานร่วมกันได้ หลายนโยบายที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เริ่มเห็นผลอย่างชัดเจน สิ่งที่รัฐบาลเพื่อไทยพูดไว้สามารถทำได้ทุกอย่าง “พูดแล้วทำ” แม้บางอันจะมีอุปสรรคหรือมีคนตั้งข้อสังเกต แต่เราทำได้ จากนายกฯเศรษฐา  ทวีสิน มาถึงนายกฯแพทองธาร ชินวัตร ช่วงแรกอาจจะขลุกขลักแต่พอนโยบายเริ่มวิ่งได้ ทำให้เห็นว่าผลิดอกออกผล ประชาชนรู้ว่า นายทักษิณ กลับมาประเทศไทย สามารถตัดโจทย์แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ วิกฤตของประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าเป็นการ ดิสเครดิตกันหรือไม่ นายอนุสรณ์  กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นความพยายาม แต่ตอนนี้บ้านเมืองบอบช้ำมากจากการขัดแย้งในสังคม ผู้สมัครลงแข่งขันนายก อบจ. ก็นำเสนอนโยบายตนเอง สุดท้ายก็เป็นการแข่งขันอย่างสร้างสรรค์ ฝ่ายที่ร้องก็เป็นสิทธิของท่าน ท่านมีสิทธิร้องก็ร้อง แต่หน้าที่ ในการวินิจฉัยต่างหากที่ กกต. จะเป็นผู้บอกว่าทำได้หรือไม่ได้

เมื่อถามว่า นักร้องจะต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ตนอยากให้ไปย้อนฟังคำปราศรัยหรือคำให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณ เวลาโดนร้องมากๆ ว่า เสียเวลา เสียบรรยากาศ ทำลายบรรยากาศความสมานฉันท์ มองความเป็นจริงไม่มีมูลเหตุ ไม่มีข้อมูลก็ต้องรับผิดชอบ