คู่แข่งท้าชิงตำแหน่งนายก อบจ.แม่ฮ่องสอนเร่งลงพื้นที่หาเสียงแบบเคาะประตูบ้าน หวังให้ชาวบ้านเปลี่ยนใจเลือกตนเข้าไปบริหารเพื่อชาวแม่ฮ่องสอน โดยพบว่า อดีตนายกอบจ.ใช้วิธีหาเสียงผ่านสื่อโชเชียล ทั้งในเฟซบุคและติ๊กต่อก นำเสนอผลงานของตนที่ผ่านมาหวังดึงคะแนนเสียงจากคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะสมาชิกด้อมส้มของพรรคประชาชนที่ถือหางคู่แข่งอย่างลับๆ

วันที่ 29 มกราคม 2568 นายดนุภัทร์ เชียงชุม ผู้สมัครลงรับเลือกตั้งเป็นนายกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน หมายเลข 2  เปิดเผยว่า เหลือเวลาเพียง 3 วัน เท่านั้นที่จะมีการลงคะแนนเสียงเพื่อเลือกตั้งนายกอบจ.และสมาชิกอบจ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งตนได้เร่งลงพื้นที่หาเสียงแบบเคาะประตูบ้านตามหมู่บ้านห่างไกล บนยอดดอยเพื่อขอคะแนนจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด 

ด้านนายอัครเดช วันไชยธนวงศ์ ผู้สมัครลงรับเลือกตั้งเป็นนายกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน หมายเลข 1 ซึ่งเป็นแชมป์เก่า และเป็นนายก อบจ.ต่อเนื่องมาถึง 19 ปี ก็เร่งหาเสียงเพื่อรักษาฐานที่มั่นของตนเองอย่างหนักเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการหาเสียงผ่านหัวคะแนนในทุก 7 อำเภอและอีกช่องทางที่เน้นหาเสียงก็คือ การหาเสียงผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุค และ แอพพลิเคชั่นติ๊กต่อก เน้นผลงานที่ทำผ่านมาตลอด 19 ปี อย่างเข้มข้น เพื่อหวังดึงคะแนนจากคนรุ่นใหม่ 

อย่างไรก็ตามในการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน พบว่ามีกระแสข่าวการซื้อเสียงหนาหู โดยบางพื้นที่ได้มีการยิงกระสุนลงบ้านแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ อ.ขุนยวม และ อ.ปาย ซึ่งเป็นฐานเสียงของ ผู้สมัครนายกอบจ.หมายเลข 2 โดยมีข่าวว่าจ่ายหัวละ 500 บาท และหัวคะแนนหักไป 100 บาท ทำให้ชาวบ้านได้รับเงินเพียง 400 บาทส่งผลให้มีการทะเลาะกันระหว่างชาวบ้านกับหัวคะแนนอย่างหนัก และในบางพื้นที่ พบว่า ชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่ ชื่นชอบในพรรคประชาชน หรือพรรคด้อมส้มเดิม ได้พากันจับตากำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เพื่อหวังจับผิดการจ่ายเงินซื้อเสียง จนทำให้กำนันและผู้ใหญ่บ้าน บางแห่งถึงกับไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวและจ่ายเงินซื้อเสียง และมีข่าวถึงขั้นขอคืนเงินซื้อเสียงให้กับผู้สมัครก็มี