เมื่อวันที่ 29 ม.ค.68 นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า ซื้อได้ด้วยเงิน .. อดีตข้าราชการผู้ใหญ่ท่านหนึ่งออกมาเปิดเผยว่า มีการซื้อเสียงในการเลือกตั้ง อบจ.จังหวัดหนึ่งทาง ใต้ถึงหัวละ 500 บาท
ท่านไม่ได้บอกว่ามีแค่จังหวัดเดียวหรือยังมีที่อื่นอีก
ส่วนตัวเชื่อว่า ไม่ได้มีจังหวัดเดียว. ราคาควรจะสูง กว่านี้หรือน้อยกว่านี้. ตอบไม่ได้ แต่ไม่น้อยกว่านี้ อย่างน้อยที่สุด. เคยเกิดเรื่องคุณผู้หญิงคนหนึ่งปาของขึ้นบนเวทีที่ทักษิณกำลังปราศรัย. ทราบ ต่อมาว่า โกธรที่ได้รับการว่าจ้างมาฟังการหาเสียง แต่ได้รับเงินเพียงสองร้อยบาทน้อยกว่าที่ตกลงกันไว้.
นี่แค่ฟังหาเสียงนะ. ซื้อเสียงจะมากแค่ไหน นี่จะหมายความว่า. ประชาธิปไตย. การเลือกตั้งใน ไทยต้องใช้เงินในทุกช่วงเวลาหรือ. เชิญชวนฟังหา เสียงต้องกวาดต้อนคนให้มาฟังมากๆด้วยเงิน. คะแนนเสียงที่ได้ต้องใช้เงินซื้อเสียง. ตามคำที่พูดกันว่า. เงินไม่มากาไม่เป็น
ตกลงไทยเป็นประชาธิปไตยหรือธนาธิปไตย
ใครมีเงินเยอะกว่าชนะเลือกตั้งอย่างนั้นใช่ไหม ใช้เงินจำนวนมากเพื่อชนะเลือกตั้ง. ทำเพื่ออะไรกัน. เงินเดือน สส.เดือนละไม่กี่สตางค์ จะถอนทุนคืน ต้องทำยังไง. หากไม่ใข่การทุจริตคอรัปชั่น
ตกลงเรากำลังเลือกคนเข้าไปโกงกันอย่างนั้นหรือ
กกต.ไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ยินเรื่องพวกนี้เลยหรือ. หรือ ไม่มีหลักฐาน ไม่มีพยาน. กฎหมายให้อำนาจ กกต.มากมาย. ให้ขอความร่วมมืจากหน่วยงาน การข่าว ธนาคาร และยังมีระบบการให้สินบนนำจับ. แต่เราก็ยังแบ๊ะๆ
ชักจะเห็นด้วยกับอาจารย์ท่านหนึ่งที่ระบุว่า. ถ้าจะเดินหน้ากันอย่างนี้. อย่ามีประชาธิปไตยเลยเสียดีกว่า. เรากำลังเลือกคนที่ฉลาดแกมโกงได้แนบเนียนกว่า ตุกติกเก่งกว่าจนกฎหมายทำอะไรไม่ได้
ดูเพื่อนบ้านเรา. จีน เวียดนาม ใครโกงคอรัปชั่น ไม่ว่าจะเคยมีตำแหน่งใหญ่โตเพียงใด พิสูจน์ความรวยไม่ได้ว่ามาอย่างไร ประหารชีวิตอย่างเดียว
ล้มกระดานประชาธิปไตย. ลองหาระบอบที่ดีกว่านี้ได้ไหม
ขอบคุณ เฟซบุ๊ก Nantiwat Samart