“สส.วารุจ ศิริวัฒน์” เปิดงานเจดีย์บุญกองข้าวใหญ่” ชื่นมืน! เจ้าเมืองบ่อแตน สปป.ลาว ส่งคณะเจ้าเมือง คณะศิลปะ รวม 31 ชีวิต ร่วมงานสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามท้องถิ่น เชื่อมความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างเมืองบ่อแตนกับอำเภอบ้านโคกให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น 7 หมู่บ้าน จัดขบวนแห่ข้าว เปลือก บายศรีข้าว วิถีชีวิตคนในชุมชน แต่งกายผ้าทอพื้นบ้านเมืองงามตระการตา ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ทำบุญและรำลึกถึงพระคุณของข้าว เป็นการขอขมาพระแม่โพสพ ส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสนามกีฬาภูเวียง เทศบาลตำบลบ้านโคก อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ นายวารุจ  ศิริวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)จังหวัดอุตรดิตถ์ เขต 2 สังกัดพรรคเพื่อไทย  เป็นประธานเปิดงาน “สืบสานวัฒนธรรมประเพณีก่อเจดีย์บุญกองข้าวใหญ่” อำเภอบ้านโคก ประจำปี 2568 โดยมี นายแสวง  ดวงสุภา นายกเทศมนตรีตำบลบ้านโคก กล่าววัตถุประสงค์ของการจัดงาน  โดยมี พันตำรวจเอกสมบูรณ์  คล่องใจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านโคก , พันตำรวจตรีจีรวัฒน์  ภักดิ์วัฒนโภคิน ผู้บังคับกองร้อย ตำรวจตะเวณชายแดน (ตชด.) ที่ 317 นายสมชาย บุตรที นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาขุม  ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการอำเภอบ้านโคก ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ  ประชาชนชาวอำเภอบ้านโคก ร่วมพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักและสนุกสนาน เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา


ทั้งนี้   เพื่อเป็นการอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น เป็นการทำนุบำรุง พุทธศาสนาที่ยึดถือกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ มีจุดมุ่งหมาย เพื่อการทำบุญและรำลึกถึงพระคุณของข้าว เป็นการขอขมาพระแม่โพสพ, เพื่อฟื้นฟูสืบทอดอนุรักษ์ ส่งเสริม วัฒนธรรมและประเพณีก่อเจดีย์บุญกองข้าวใหญ่ตำบลบ้านโคกให้มีปรากฏสืบไป, เพื่อส่งเสริมความเข้าใจ ความรัก ความสามัคคีในหมู่คณะของท้องถิ่น ของชุมชนและประชาชน โดยอาศัยกิจกรรมของงานประเพณีกองข้าวเป็นกิจกรรมหลักและห่างไกลจากอบายมุขต่าง ๆ 


โดยพิธีเปิดงานครั้งนี้  ท่านบุญพะลัง  วิไลสัก เจ้าเมือบ่อแตน มอบหมายให้ทางคณะนำของเมืองและคณะศิลปะเมืองบ่อแต ท่านอุ่น ทำมะวง หัวหน้าคณะตรวจตราพรรค-รัฐ พร้อมด้วย ท่านพันโทคำปอง ไชยะลาด หัวหน้ากองบัญชาการ ปกส.เมือง, ท่านคำอุ่น สุลิวง หัวหน้าห้องการอุตสาหกรรมและการค้าเมือง  , ท่าน ดร.แสงวุด พิมมะทา หัวหน้าห้องการสาธารณสุขเมือง, ท่านนางคำโก้ จันทะวง หัวหน้าห้องการแถลงข่าว วัฒนธรรมและท่องเที่ยว, ท่านสมลิด อ่อนตา รองหัวหน้าห้องว่าการเมือง, ท่านพันโททองสี แสนทอน หัวหน้ากองร้อยชายแดน 160, ท่านพันโทจอมแพง บุนถนอม กองบัญชาการ ปกส.เมือง, ท่านพันตรีอุด ดวงสะหวัน หัวหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองขอนแก่น – หนองปาจีด, ท่าน บุญเลี้ยง ดวงมาลา อำนวยการโรงเรียน มส.น้ำพุ รวม 16 ชีวิต พร้อมคณะนักแสดงอีก 15 ชีวิต เข้าร่วมในพิธีเปิดงาน “สืบสานวัฒนธรรมประเพณีก่อเจดีย์บุญกองข้าวใหญ่” อำเภอบ้านโคก ประจำปี 2568 เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างเมืองบ่อแตนกับอำเภอบ้านโคกให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น 

ภายในงานมีขบวนแห่ข้าวเปลือก ขบวนแห่บายศรีข้าว ขบวนแห่วิถีชีวิตของชาวบ้านในชุดการแต่งกายพื้นบ้านของแต่ละหมู่บ้านด้วยผ้าทอพื้นเมืองของอำเภอบ้านโคก จากคนในชุมชนเขตเทศบาลตำบลบ้านโคก 7 หมู่บ้าน 7 ขบวนแห่ ที่ดำรงอยู่ด้วยวิถีเกษตรกรรมมาช้านาน ทั้งการเก็บเกี่ยวข้าว การฝัดข้าวในกรระด้งเครื่องจักสานภูมิปัญญาไทย เพื่อเป็นการแยกเมล็ดข้าวและเปลือกข้าวออกจากกัน ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน และด้วยสำนึกในบุญคุณของข้าวที่หล่อเลี้ยงชีวิตให้กับทุกคน คนในชุมชนจึงร่วมแรงรวมใจรวมพลังกันแสดงออกถึงการสืบสานวัฒนธรรมงานประเพณีก่อเจดีย์บุญกองข้าวใหญ่ในครั้งนี้ 


ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการจัดนิทรรการอาหารพื้นบ้าน อาทิ ไก่ใต้น้ำ ยำมะเขือ แหลมปลา ข้าวแดกงา ข้าวหลาม ข้าวจี่ ข้าวโกป การแสดงหมู่บ้าน “บ้านโคกฮวมใจ คูณลานบ้านเฮา”, การแสดงฟ้อนรำของเด็กนักเรียนโรงเรียนอนุบาลบ้านโคก, การแสดงฟ้อนอวยพร จากสาธารณรัฐประชาธิป ไตยประชาชน(สปป.ลาว) และฟ้อนหัตถกรรมจักสาน จากจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน(สปป.ลาว) 


นายแสวง  ดวงสุภา นายกเทศมนตรีตำบลบ้านโคก กล่าวว่า  งานบุญกองข้าว ถือเป็นบุญประเพณีประจำปีของชาวบ้านโคก เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวจะนำข้าวมารวมกันเพื่อสู่ขวัญข้าวและนำไปถวายวัด ด้วยสำนึกในบุญคุณของข้าวและยังเป็นการแสดงออกถึงพลังในการร่วมแรงร่วมใจของชุมชน โดยงานก่อเจดีย์บุญกองข้าวใหญ่จะจัดในช่วงประมาณเดือนมกราคมของทุกปี มีทั้งการก่อเจดีย์ข้าว ขบวนแห่วัฒนธรรรม การประกวดอาหาร การออกร้าน การสู่ขวัญข้าว สินค้า OTOP สินค้าราคาถูกจากโรงงานและมหรสพ ในปีนี้จึงถูกจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 26-28 มกราคม 2568 


“บ้านโคก” เป็นอำเภอ 1 ใน 9 อำเภอของจังหวัดอุตรดิตถ์ทางภาคเหนือของประเทศไทย มีพื้นที่ 1,055.911 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 6,599,433 ไร่ มี 7 หมู่บ้าน ประชาชนส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรมปลูกข้าว ข้าวโพด สับปะรดและยางพารา นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ติดกับประเทศสาธารณ รัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เทศบาลตำบลบ้านโคก จึงมีด่านประเพณีเชื่อมความ สัมพันธ์ระหว่าง อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ กับทาง สปป.ลาว เรียกด่านนี้ว่า จุดผ่อนปรนตลาดการค้าช่องห้วยต่าง ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านหนองไผ่ หมู่ที่7 มีการเปิดด่านทุกวันพุธ โดยมีพี่น้องประชาชนลาว นำสินค้ามาขายแลกเปลี่ยนกับพี่น้องคนไทยอำเภอบ้านโคก เป็นจุดแข็งช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจให้กับเทศบาลในระดับหนึ่ง
“ ในการเตรียมทำบุญกองข้าวใหญ่นั้น เมื่อก่อนจะต้องจัดเตรียมสถานที่ทำบุญที่ลานนวดข้าวของตน การนำข้าวที่นวดแล้วมากองขึ้นให้สูงเรียกว่า "คูณลาน" จากนั้นนิมนต์พระภิกษุสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ จัดน้ำอบน้ำหอมไว้ประพรมซึงด้ายสายสิญจน์รอบกองข้าว เมื่อพระภิกษุสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จบแล้วถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ จากนั้นนำข้าวปลาอาหารมาเลี้ยงญาติพี่น้อง ผู้มาร่วมทำบุญ พระสงฆ์ก็จะประพรมน้ำพุทธมนต์ให้กองข้าวแก่เจ้าภาพ พร้อมนำน้ำพระพุทธมนต์ที่เหลือไปปะพรมให้แก่วัว ควาย ตลอดจนเครื่องมือในการทำนาเพื่อความเป็นสิริมงคล”


นายแสวง   กล่าวอีกว่า  ปัจจุบันการทำบุญกองข้าวใหญ่ หรือบุญคุณลานนั้น นับวันยิ่งจะเลือนหายไป จากไม่ค่อยมีผู้สนใจประพฤติ ปฏิบัติกัน เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านประเพณีและวัฒนธรรม ปัจจุบันในการทำนาของชาวนานั้น ชาวนาไม่มีลานนวดข้าวเหมือนเก่าก่อน เมื่อเกี่ยวข้าวเสร็จและมัดข้าวเป็นฟ้อนๆ แล้วจะขนมารวมกันไว้ ณ ที่ที่หนึ่งของนาโดยไม่มีลานนวดข้าว หลังจากนั้นก็ใช้เครื่องสีข้าวมาสีเมล็ดข้าวเปลือกออกจากฟางลงใส่ในกระสอบและในปัจจุบันยิ่งมีการใช้รถไถนา เครื่องสีข้าวเป็นส่วนมากจึงทำให้ประเพณีบุญกองข้าวใหญ่ เริ่มเลือนหายไป แต่ก็ยังมีบางหมู่บ้านบางแห่งที่ยังรวมกันทำบุญโดยนำข้าวเปลือกมากองรวมกันเรียก"กองข้าวใหญ่" ซึ่งจะเรียกว่าบุญกองข้าวใหญ่ แทนการทำบุญคูณลาน นับว่าเป็นการ ประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับยุคสมัยและประเพณีที่สืบทอดกันมา


ชาวบ้านโคกเชื่อว่า “แม่พระโพสพ”  มีอำนาจสามารถดลบันดาลให้ข้าวมีความเจริญงอกงามและนำความอุดมสมบูรณ์มาให้แก่ชาวนาที่บูชาเทวีแห่งข้าว จึงมีพิธีบูชาแม่พระโพสพก่อนที่จะลงมือทำนาหรือระหว่างตกกล้า จนข้าวตั้งท้องออกรวงไปจนถึงการเก็บเกี่ยวในที่สุดการทำพิธีบูชาแม่พระโพสพนั้นจะทำพิธีทางพราหมณ์ตามประเพณีปฏิบัติของบรรพชนเรียกว่า"พิธีสู่ขวัญข้าว" เพราะถือคติความเชื่อว่าขณะที่เราทำนาเกี่ยวข้าวและนวดข้าวเราใช้เท้าเหยียบย่ำข้าวจึงมีความจำเป็นที่จะต้องร่วมทำพิธีบูชาแม่พระโพสพเพื่อขอขมาจะได้เป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัวให้มีแต่ความผาสุข


เมื่อหมอขวัญมาทำพิธีสู่ขวัญข้าว เสร็จพิธีแล้วก็จะมีการเฉลิมฉลองบุญกองข้าวหรือที่ชาวบ้านโคกเรียกว่า "อ่มกองข้าว" ทางเทศบาลตำบลบ้านโคก เล็งเห็นความสำคัญที่จะส่งเสริมและบำรุงรักษาจารีตประเพณีและวัฒนธรรมและการบำรุงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวตำบลบ้านโคก สืบต่อลูกหลานสืบต่อไป เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่งานประเพณีก่อเจดีย์บุญกองข้าวใหญ่ของตำบลบ้านโคก ส่งเสริมการท่องเที่ยวของตำบลบ้านโคกให้คนทั่วไปรู้จักมากยิ่งขึ้น เป็นการฟื้นฟูสืบทอด อนุรักษ์ ส่งเสริมวัฒนธรรมและประเพณีก่อเจดีย์บุญกองข้าวใหญ่ ปลูกฝังให้ประขาชนและเยาวชนได้ซาบซึ้ง เกิดความประทับใจ ภาคภูมิใจในกิจกรรมท้องถิ่นของตนเอง รวมถึงรู้จักหวงแหนประเพณีวัฒนธรรมพร้อมเข้ามามีส่วนร่วมงานขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมที่ดีงามของชาติ ช่วยส่งเสริม และทำนุบำรุงรักษาประเพณีกองข้าวใหญ่ มรดกทางวัฒนธรรมที่ดีของบรรพบุรุษไทยที่ได้สร้างมาได้สืบทอดต่อไป อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมความเข้าใจ ความรัก ความสามัคคีในหมู่คณะของท้องถิ่นของชุมชนด้วย ”