ตร.พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบ ร้านค้าขายของชำในหมู่บ้านที่ถูกไฟไหม้วอดไปพร้อมกับ 3 พ่อแม่ลูกรวม 3 ศพ พบทอง 3 บาทเศษ เงินสดที่ขายของและใส่ในปี๊บออมสิน ยังสรุปสาเหตุไม่ได้เมียผู้ใหญ่ชี้ไม่น่าจะทำร้ายตัวเองเพราะเพิ่งขอต่อเติม ขณะอดีตน้องเมียชี้ฝ่ายชายมีอาการเหมือนซึมเศร้าในระยะหลัง

วันที่ 28 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณีไฟ้ไหม้ร้านค้าเป็นบ้านชั้นเดียวครึ่งปูนครึ่งไม้ที่ถูกไฟไหม้วอดไปพร้อมกับ 3 พ่อแม่ลูกรวม 3 ศพล่าสุดตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเหตุในครั้งนี้ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งจะต้องนำหลักฐานที่เก็บได้ไปตรวจสอบอีกครั้ง

หลังการพิสูจน์เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบสิ่งของภายในบ้านพบสร้อยคอทองคำรูปพรรณน้ำหนัก 1 บาทจำนวน 1 เส้น น้ำหนัก 2 บาทจำนวน 1 เส้น และแหวนทองน้ำ 1 สลึงอีกจำนวน 1 เส้นรวมน้ำหนักทองที่พบหนัก 3 บาท 1 สลึง นอกจากนี้ยังพบเงินสดที่ไฟไหม้ไม่หมดอีกจำนวนหนึ่งประมาณ 50,000n บาท และพบปี๊บใส่เงินสดคาดว่าเจ้าของบ้านน่าจะเอามาเป็นออมสินเก็บเงินไว้ได้อีก 1 ปี๊บ คาดว่ามีประมาณ 20,000 บาท โดยมีนาง แขม ชอบรู้ อายุ 78 ปี แม่บุญธรรม ของ น.ส.กิตติมา หรือมา ชอบรู้ มาเฝ้าดูด้วย

 

สอบถามนาง ศิริรัตน์  อายุ 52 ปี ภรรยาผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 10 วัน นายจำรอง มาถามว่าจะขออนุญาตต่อเติมอาคารยกหลังคาให้สูงขึ้น เนื่องจากอาคารดังกล่าวเป็นของหมู่บ้านที่ครอบครัวนี้มาขออาศัยอยู่ สามีได้อนุญาตแล้ว และปกติครอบครัวนี้อยู่กันอย่างมีความสุข สามีเป็นคนรักภรรยาช่วยเหลืองานในครอบครัวเป็นอย่างดี ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะเป็นการทำร้ายคนในครอบครัวเดียวกัน แต่ระยะหลังเห็นฝ่ายชายมีอาการผิดปกติเหมือนป่วยซึมเศร้า

ด้านนางบุญมา อายุ 41 ปี น้องสาวของ น.ส.กิตติมา ผู้เสียชีวิต เล่าว่าทั้งสองคนไม่ได้หวังจะมาอยู่ที่นี่เลยเพราะเป็นที่หลวง ได้เตรียมตั้งหลักหาทุนจะไปอยู่บ้านพี่สาวที่ ต.สวาย จ.สุรินทร์ และไม่เคยมีเรื่องทะเลาะหรือขัดแย้งกันมาก่อน ตรงกันข้ามทั้งสองรักกันดี แต่ในระยะหลังพี่เขยมีอาการผิดปกติเบลอ คล้ายกับคนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เคยบอกให้ไปหาหมอแต่ไม่ไป ยอมรับไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง