วันที่ 28 มกราคม 2568 เวลา 09.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ร.ต.องสมศักดื ทองกร สองสารวัตรสอบสวน สภงเมืองลพบุรี ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ในเหตุเพลิงไหม้บ้าน หมู่ 3 ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองจังหวัดลพบุรี พร้อมว่าที่ ร.ต.ทรงพล แป้นแก้ว นายประยูร ศิริวรรณ รอง ผวจงลพบุรี โดยเจ้าของบ้านที่เกิดเพลิงไหม้ ซื่อนางจันทร์เพ็ญ อายุ 65 ปี บ้านต้นเพลิงเป็นบ้านเรือนไทยขนาดใหญ่ ปลูกติดกันหลายหลัง ในพื้นที่ 8 ไร่ ริมถนนพหลโยธินมีรั้วล้อม เพลิงได้ลุกไหม้บริเวณบ้านหลังใหญ่ ลุกลามอย่างรวดเร็วเพราะว่า เป็นบ้านเรือนไทยที่สร้างด้วยไม้สักและในขณะที่เกิดเหตุเพลิงไหม้มีลมกระโชกแรงทำให้เชื้อไฟที่ลุกจากบ้านต้นเพลิง ออกไปยังสถานที่ต่างๆบริเวณบ้านใกล้เคียงทำให้เกิดไฟลุกขึ้นอีกหลายจุดเจ้าที่ระดมรถดับเพลิงจากหน่วยงานต่างๆกว่า 20 คันเข้าทำการสกัดเพลิงจนอยู่ในความสงบถึงใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง โดยเพลิงได้เผาบ้านเรือนไทยที่สร้างด้วยไม้สักและเสาไม้สักทั้งต้น ในขณะที่เกิดเหตุลมอย่างแรงเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะต้องนำรถดับเพลิงมาคุมสถานการณ์ไว้ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม บ้านหลังดังกล่าวได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อ วันที่ 18 มกราคม 2551 ซึ่งเสียหายไป 3 หลัง มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่โจทก์ขานของชาวบ้านเพราะเมื่อครั้งไฟไหม้ครั้งแรกเจ้าของบ้านชื่อเสี่ยน้อย ได้ถูกยิงเสียชีวิตก่อนหน้าที่จะเกิดไฟไหม้3 วัน และนอกจากนี้แล้ว ในเดือนดังกล่าว ไฟยังไหม้ ห้องนอนเสี่ยน้อยผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิตอีกด้วย
ซึ่งครั้งนี้เพลิงไหม้ได้เกิดขึ้นช่วงต้นเดือนมกราคมเดียวกัน และปกติแล้วบ้านเรือนไทยหลังนี้จะไม่มีคนอยู่มีเพียงคนงานเฝ้าอยู่เท่านั้นส่วนสาเหตุยังไม่สามารถตรวจสอบได้ต้องให้เจ้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรมาทำการตรวจสอบหาสามเหตุการเกิดเพลิงไม้อีกครั้ง ส่วนค่าเสียหายเบื้องต้น น่าจะไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท