“นายกฯ” คิกออฟเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ วันจ่ายตรุษจีน ย้ำกระตุ้นศก. ต้องทำต่อเนื่อง วิดีโอคอลคุย "ป้าจัน" แม่ค้าไข่ ดีใจได้เงิน ด้าน “จุลพันธ์” แจงโครงการภาครัฐเพิ่มสภาพคล่องเศรษฐกิจมีจำนวนมากตั้งแต่ปลายปีก่อน ยันรัฐบาลพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องเคาะไทม์ไลน์แจกเฟส 3 -กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนใน 2 เดือน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ม.ค. 68 ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานเปิดตัว (Kick Off) โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผู้สูงอายุ โดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าร่วม
โดยนายกฯ กล่าวว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลนี้เน้นย้ำว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งเราทำกันมาอย่างต่อเนื่อง นโยบายต่างๆที่เกิดขึ้นโดยมากแล้วเป็นนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนมีกินมีใช้ ที่ผ่านมาเรามีการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ โดยมีการมอบเงิน 10,000 บาทให้กับประชาชนกว่า 14.45 ล้านคน ซึ่งเกิดขึ้นแล้วในเฟสแรก และวันนี้เป็นเฟสสองของการกระตุ้นเศรษฐกิจคือการแจกเงินหมื่นให้กับผู้สูงอายุ ซึ่งนโยบายนี้เป็นนโยบายที่ประชาชนรอคอย และครั้งที่แล้วที่เกิดขึ้นเราสามารถได้รับผลตอบรับกลับมาอย่างมากมาย เพราะมีการจัดการใช้สอยอย่างมากมายทำให้เศรษฐกิจถูกกระตุ้นขึ้นและบางคนนำเงินมารวมกันในครอบครัว ต่อยอดธุรกิจหารายได้เพิ่มขึ้น ถือเป็นความสำเร็จรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจไป 1 รอบและรอบนี้เป็นรอบที่ 2 ซึ่งวันนี้จะมีการแจกเงิน 10,000 บาทผ่านบัญชีพร้อมเพย์ 3 ล้านคน ระบบเศรษฐกิจไทยจะเติมเงินกว่า 30,000 ล้านบาทในวันนี้

"ขอแสดงความยินดีกับประชาชนด้วยและหวังจะมีการจับจ่ายใช้สอยเกิดขึ้นและหวังว่าเงินจำนวนนี้จะสามารถช่วยประชาชนในการบรรเทาทุกข์แบ่งเบาภาระได้หลายอย่าง และสามารถต่อยอดหลายๆอย่างในชีวิต และวันนี้ถือเป็นวันที่ดีขอให้ทุกท่านที่รับไปได้ใช้กันอย่างเต็มที่และสบายใจ ซึ่งโครงการนี้จะช่วยผู้สูงอายุและแน่นอนเฟสต่อไปสื่อมวลชนรอฟัง วันนี้กระทรวงการคลังจะให้สัมภาษณ์ต่อจากนี้ในรายละเอียดต่อไป" นายกฯ กล่าว 

จากนั้นนายกฯได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนผ่านคลิปวิดีโอที่ประชาชนต่างขอบคุณรัฐบาลที่ยังนึกถึงผู้สูงอายุที่ไม่มีรายได้และไม่ได้ทำงาน โดยบอกเป็นเสียงเดียวกันจะนำเงินที่ได้ไปใช้ประโยชน์ เช่น ซื้อของอุปโภคบริโภค เป็นทุนต่อยอดในการค้าขาย เป็นต้น 

ต่อจากนั้นนายกฯวิดีโอคอลพูดคุยกับป้าจันผู้สูงอายุที่ได้เงิน 10,000 บาท ซึ่งเป็นแม่ค้าขายไข่ไก่ที่ตลาดเคหะทุ่งสองห้อง โดยป้าจันระบุว่า ดีใจที่ได้เงิน 10,000 บาทจะนำเงินไปต่อยอดร้านขายไข่ ที่ตลาดเคหะทุ่งสองห้องและจะนำไปจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน 

ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า ดีใจกับป้าด้วย และเชื่อว่า ร้านที่ป้าจันไปซื้อของก็จะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย และขอให้ป้าให้กำลังใจรัฐบาลด้วย ป้าจันจึงตอบว่า ป้าให้กำลังใจรัฐบาลชุดนี้อย่างมาก ขอบคุณนายกฯขอบคุณรัฐบาลชุดนี้ ที่ดูแลประชาชนได้อย่างดี

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่าวันนี้รัฐบาลได้โอนเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 ลงไปในระบบเศรษฐกิจ โดยโอนเงินแล้ว 30,200 ล้านบาทถือเป็นส่วนสำคัญของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลโดยกระทรวงการคลังก็ให้ความสำคัญกับการเตรียมเม็ดเงินลงไปช่วยเหลือประชาชน และช่วยให้มีสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ โดยการแจกเงินในวันนี้ซึ่งเป็นวันจ่ายในเทศกาลตรุษจีนให้กับกลุ่มผู้สูงอายุก็จะทำให้มีการใช้จ่ายเงินออกไป ถือว่าเป็นการใส่เงินในช่วงที่ถูกต้อง ส่วนจะมีการโอนเงินไม่สำเร็จมากน้อยขนาดไหนนั้นจะมีการแจ้งให้กระทรวงการคลังทราบในช่วงเย็นของวันนี้ซึ่งหากโอนเงินไม่สำเร็จก็จะมีการโอนซ้ำให้กับผู้ที่ได้รับสิทธิ์อีก 2 ครั้งในวันที่ 28 ของแต่ละเดือนได้แก่เดือน 28 ก.พ. 28 มี.ค.และ 28 เม.ย. ส่วนคนที่มั่นใจว่ามีสิทธิ์จะได้เงินแต่ยังไม่

“หากย้อนดูรัฐบาลก็มีโครงการในการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องทั้งในเรื่องของการเติมเงินในระยะที่ 1 วงเงิน 1.45 แสนล้านบาทในเดือน ก.ย.ปีก่อน ต่อมาในช่วงปลายปีก็มีเงินจากโครงการไร่ละ 1,000 บาทที่โอนให้กับชาวนา จากนั้นก็มีโครงการคุณสู้ เราช่วย ในการที่จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องลดหนี้ให้กับประชาชน และโครงการให้ใช้จ่ายเพื่อลดหย่อนภาษี (Easy E-Receipt )ที่มีเม็ดเงินกว่า 7 หมื่นล้านบาทจะลงสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วง ม.ค.-ก.พ. ก่อนจะมาเป็นโครงการแจกเงินเฟสที่ 2 ในวันนี้”

ส่วนความคืบหน้าในการแจกเงินในระยะที่ 3 และการแจกเงินให้กับผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนนั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า จะได้ความชัดเจนในเรื่องของไทม์ไลน์และขั้นตอนภายใน 2 เดือนนี้ โดยการแจกเงินในเฟสที่ 3 ได้เตรียมเม็ดเงินไว้กว่า 1.6 แสนล้านบาทซึ่งอยู่ในงบกลางฯ เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2568 ส่วนจะต้องใช้งบฯ ปี 2569 หรือไม่นั้นต้องดูอีกที โดยแนวทางการแจกเงินเฟสที่ 3 ยังยืนยันว่าจะแจกเงินให้ได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ผ่านระบบแอปพลิเคชันที่เป็นการแจกเงินดิจิทัลและสมาร์ทคอนแท็กซ์ที่เป็นระบบบล็อกเชนอยู่เป็นระบบเบื้องหลัง โดยก่อนหน้านี้ได้ทำความเข้าใจกับธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐแล้วในการใช้งานระบบที่เป็นระบบ Open Loop ร่วมกัน
ส่วนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนนายจุลพันธ์ กล่าวว่า กลุ่มนี้รัฐบาลจะมีการกำหนดรายละเอียดขั้นตอนต่างๆและแถลงให้ทราบเร็วๆนี้โดยคาดว่าใช้เวลาไม่นานสามารถทำคู่ขนานไปกับระยะที่3 ได้ โดยกลุ่มนี้มีคนที่เข้าข่ายไม่มากนักคาดว่าประมาณไม่เกิน 1 ล้านคน