หลังเปิดตัวได้ไม่ไนาน "แอปพลิเคชั่น" DeepSeek ของประเทศจีน ได้ถูกโจมตีทางไซเบอร์ ทำให้บริษัทไม่สามารถเปิดรับการลงทะเบียนของผู้ที่ต้องการใช้บริการรายใหม่เป็นการชั่วคราว แต่ผู้ที่ผ่านการลงทะเบียนแล้ว ยังคงสามารถ log in ได้ตามปกติ
DeepSeek คืออะไร เป็นแพลตฟอร์ม ของบริษัทสตาร์ทอัพ ประเทศจีน ก่อตั้งโดย Liang Wenfeng ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์และเป็นบุคคลสำคัญในวงการ AI ของจีน ได้ทำการเปิดตัว DeepSeek เมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 โดยผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวออกมาแล้วได้รับการพูดถึงอย่างมาก คือ "โมเดล R1" ซึ่งเน้นด้านงานที่เกี่ยวข้องกับการให้เหตุผล (Reasoning Tasks) และเป็นคู่แข่งสำคัญของโมเดล o1 ของ OpenAI
DeepSeek เปิดตัวโมเดล AI แบบ open-source ในเดือนธ.ค.2567 โดยระบุว่าใช้เวลาในการพัฒนาเพียง 2 เดือน และใช้ต้นทุนต่ำกว่า 6 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ใช้ชิป H800s ซึ่งเป็นชิปประสิทธิภาพต่ำของ Nvidia
นอกจากนี้ DeepSeek กลายเป็นแอปพลิเคชั่นฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดในสหรัฐผ่านทาง App Store ของบริษัทแอปเปิ้ล โดยสามารถโค่นตำแหน่งของแอปพลิเคชั่น ChatGPT ของ OpenAI
สำหรับการเปิดตัวดังกล่าวของ DeepSeek สร้างความตื่นตระหนกต่อความเป็นผู้นำโลกในธุรกิจ AI ของสหรัฐ และเกิดการตั้งคำถามต่อการที่บริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีได้ใช้งบประมาณจำนวนมากในการพัฒนาโมเดล AI และการตั้งศูนย์ดาต้าเซนเตอร์ในช่วงที่ผ่านมา
หลังจากนั้นก็ได้พัฒนาต่อไปเป็น DeepSeek-Coder-V2 ซึ่งเป็นโมเดลที่ก้าวหน้าขึ้นออกแบบมาสำหรับการแก้ปัญหาการเขียนโค้ดที่ซับซ้อน และรองรับความยาวบริบทสูงถึง 128,000 โทเคน โมเดลนี้เปิดให้ใช้งานผ่าน API ราคาประหยัด โดยคิดค่าบริการที่ 0.14 ดอลลาร์สหรัฐต่อโทเคนสำหรับข้อมูลนำเข้า และ 0.28 ดอลลาร์สหรัฐต่อโทเคนสำหรับข้อมูลผลลัพธ์
โมเดลล่าสุดของบริษัท ได้แก่ DeepSeek-V3 และ DeepSeek-R1 ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ DeepSeek ในฐานะผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการ AI ซึ่งเป็นโมเดลที่มีศักยภาพที่น่าประทับใจในด้านการทดสอบประสิทธิภาพต่าง ๆ โดยที่ใช้ทรัพยากรน้อยกว่าคู่แข่งอย่างมีนัยสำคัญ ส่วน DeepSeek-R1 ซึ่งเปิดตัวในเดือนมกราคม 2025 เน้นด้านงานที่เกี่ยวข้องกับการให้เหตุผล หรือ Reasoning Tasks และยังเป็นคู่แข่งสำคัญของโมเดล o1 ของ OpenAI
หลังจากนั้น Liang Wenfeng ก็ได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางของความภาคภูมิใจของชาติจีน โดยในปี 2021 ทาง Liang ได้เริ่มซื้อหน่วยประมวลผลกราฟิกของ Nvidia จำนวนมากเพื่อใช้ในโครงการ AI ควบคู่กับการบริหารกองทุน High-Flyer โดยในช่วงแรกเขายังออกแบบอัลกอริทึมที่ใช้วิเคราะห์กราฟหุ้น และต่อมาก็ได้ตั้งเป้าหมายในการพัฒนา AI ที่ฉลาดระดับเทียบเท่ามนุษย์
#DeepSeek