เมื่อช่วงหลาบวันก่อน  นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการนักขายบ้านเราทีเดียว สำหรับการจากไปของปรมาจารย์สุดยอดนักขายของวงการประกันชีวิต

โดยล่าสุดวันที่ 27ม.ค. 2568 นายบรรยง วิทยวีรศักดิ์ กูรูวงการการเงินและประกันภัย และอดีตประธานสมาคมที่ปรึกษาการเงินแห่งเอเชียแปซิฟิก (APFinSA) ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุข้อความว่า  

สุพัฒน์ เลิศพนมวรรณ ตำนานที่เพิ่งจากไป

คุณสุพัฒน์ เลิศพนมวรรณ เพิ่งจากพวกเราไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเป็นเรื่องบังเอิญมาก ที่วันนี้ผมไปเปิดไฟล์เก่าในเครื่องคอมพิวเตอร์ของผม พบว่ามีบทความที่ผมเขียนถึงคุณสุพัฒน์ ในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของ การก่อตั้งสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน (เขียนไว้ในปีพ.ศ. 2561)

ผมเห็นว่าเป็นการสรุปคุณงามความดีของคุณสุพัฒน์ไว้ จึงขอนำมาลงให้พวกเราอ่านอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่จะได้รู้จักคุณสุพัฒน์มากขึ้น

สุพัฒน์ เลิศพนมวรรณ ตำนานที่ยังมีชีวิต(ณ ปี2561 )

ถ้าจะให้ผมนึกถึงใครสักคน ซึ่งเป็นตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่ ที่สามารถสร้างเครือข่ายหน่วยงานในธุรกิจประกันชีวิตได้มากที่สุดในประเทศไทยแล้ว ก็คงไม่ใช่ใครอื่น หากคือคุณสุพัฒน์ เลิศพนมวรรณ คนเดียวเท่านั้น

คุณสุพัฒน์ เลิศพนมวรรณ ผู้อำนวยการภาคระดับสูง ภาคเหรียญทอง ของบริษัท เอไอเอ จำกัด ผู้สร้างนักขาย นักบริหารงานขายมากมาย ไม่ว่า คุณสมบูรณ์ เลิศพนมวรรณ คุณสุรินทร์ จันทร์ชลอ คุณชัย แซ่ใช้ คุณกฤษณะ กฤตมโนรถ คุณพัชรา หวังว่องวิทย์ คุณสุวลี ปิติกถา 

หรือเครือใหญ่ๆในบริษัทเอไอเอ เช่น เครือนำทอง เครือเพชรเหรียญทอง เครืออัศวิน หรือเครือเดือนทอง  ล้วนเป็นลูกหลานที่มีท่านเป็นต้นสายทั้งสิ้น

เมื่อ 25 ปีที่แล้ว จำได้ว่ามีคนกล่าวว่า 80%ของผลผลิตในบริษัท เอไอเอ จำกัด ประเทศไทย ล้วนเป็นมาจากเครือเหรียญทอง ที่ถือเป็นสายงานลูกหลานของคุณสุพัฒน์ เลิศพนมวรรณทั้งสิ้น 

มาถึงวันนี้ ผมยังเชื่อว่ากว่า 70%ของผลผลิตของบริษัท เอไอเอในประเทศไทย ก็ยังมาจากลูกหลานของเครือเหรียญทอง นี่ช่างเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ ที่ชายธรรมดาคนหนึ่งสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลง สร้างคุณูปการให้กับแผ่นดินไทยได้มากขนาดนี้

แล้วอะไรล่ะ ที่ทำให้ชายธรรมดาสามารถสร้างสิ่งที่ไม่ธรรมดาขึ้นมาได้ ผมขอกล่าวถึงวิสัยทัศน์ของท่าน ที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้กับอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทย ดังนี้

1. การขยายหน่วยงาน
สมัยก่อน หัวหน้าหน่วยมักไม่สนับสนุนให้ตัวแทนในหน่วยของตนเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วย ด้วยเกรงว่าจะขาดมือขายในหน่วยไป แต่คุณสุพัฒน์กลับส่งเสริม ด้วยการตั้งกลุ่มขยายงาน หรือสมัยนั้นเรียกว่ากลุ่มพรีซุปเปอร์ไวเซอร์ เพื่อเตรียมตัวแทนประกันชีวิตขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วย 

คุณสุพัฒน์บอกว่า “มีแค่ 2 มือ ทำไม่ทัน ขายยังไงก็ไม่หมด ต้องดึงคนอื่นมาช่วยทำ” สมัยเมื่อ 30 ปีที่แล้ว กลุ่มนี้น่าจะเป็นกลุ่มพรีซุปฯ ที่ใหญ่ที่สุดและมีการขยายงานได้เร็วที่สุดในประเทศไทย และท่านยังได้ดูแลไปจนถึงหน่วยหลานที่แยกไปจากหน่วยลูกของท่านอีกด้วย

2. การฝึกพูด 
คุณสุพัฒน์เห็นความสำคัญของการฝึกพูดต่อหน้าที่ชุมนุมชน ท่านเชื่อว่านี่เป็นการยิงปืนนัดเดียว แต่ได้นกถึง 3 ตัว คือ 1. ฝึกความเชื่อมั่น 2. ทำให้รู้จักใช้ถ้อยคำได้ตามต้องการ และ 3. ทำให้หัวหน้ารุ่นใหม่ฝึกอบรมเองได้และให้วิชาการได้  

คุณสุพัฒน์จึงมีข้อกำหนดว่า ใครที่จะขึ้นเป็นผู้บริหารหน่วยในเครือเหรียญทอง ต้องผ่านการฝึกพูดอย่างต่ำ 3 บท ดังนั้น ในยุคนั้น จึงมีผู้บริหารหน่วยรุ่นใหม่เป็นนักบรรยายที่ให้วิชาการได้มากมาย น่าเสียดายว่า ผู้นำองค์กรยุคหลังๆ ไม่มีใครให้ความสนใจเรื่องนี้อีกต่อไป จึงมีปรากฎการณ์ว่า ผู้บริหารหน่วยรุ่นใหม่ฝึกอบรมไม่เป็น ให้วิชาการไม่ได้ คนที่ทำอยู่ก็เป็นพรสวรรค์ที่มีมาก่อนทำงานในธุรกิจนี้แล้วทั้งสิ้น

3. ความเสียสละ
คุณสุพัฒน์นอกจากเป็นคนที่มีความสามารถสูงแล้ว ท่านยังเป็นคนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเสียสละ ท่านเชื่อว่า สังคมจะเติบโตได้ต้องมีคนเสียสละ ท่านจึงอาสาทำงานในหลายบทบาท ทั้งในธุรกิจประกันชีวิตและสโมสรอื่นๆภายนอก 

ท่านเคยดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคมตัวแทนประกันชีวิตในสมัยที่เรายังไม่มีที่ทำการสมาคม ท่านจึงอนุญาตให้ใช้บ้านของท่านเองเป็นที่ทำการ หลังหมดวาระ ท่านยังมาช่วยงานสมาคมอย่างสม่ำเสมอ ด้วยความที่ท่านเป็นคนใจกว้างและให้เกียรติคนอื่น ไม่ว่าจะมาจากบริษัทใด จึงไม่แปลกใจที่ท่านจะได้รับเกียรติให้เป็นประธานดำเนินการเลือกตั้งนายกสมาคมตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ทั้งยังดำรงตำแหน่งเป็นประธานที่ปรึกษาของสมาคมตัวแทนประกันชีวิตมาโดยตลอดอีกด้วย 

นั่นเป็นสิ่งรับประกันได้อย่างดีว่า ท่านเป็นที่ยอมรับในเกียรติ ความน่าเชื่อถือและความสามารถขนาดไหน

ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมประกันชีวิตไทยได้เติบโตขึ้นมาก เราไม่สามารถกล่าวถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ได้ โดยไม่กล่าวถึงฝ่ายขายที่เป็นตัวจักรสำคัญในการขยายตลาดได้ 

เช่นเดียวกัน เราไม่สามารถกล่าวถึงฝ่ายขายที่เข้มแข็งนี้ โดยปราศจากการกล่าวถึงคุณสุพัฒน์ เลิศพนมวรรณได้ เพราะท่านเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ทำให้ฝ่ายขายของเราเข้มแข็งมาจนทุกวันนี้

หากผืนฟ้าจะมีดวงอาทิตย์เพียงหนึ่งเดียวที่ฉายแสงเจิดจ้า  ดวงดาราที่โดดเด่นยืนตระหง่านมายาวนานในธุรกิจประกันชีวิตไทย ก็มีเพียงท่านอ๋องหนึ่งเดียวเช่นกันที่ตัวแทนประกันชีวิตไทยยกย่อง

“สุพัฒน์ เลิศพนมวรรณ” บุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่พวกเราภาคภูมิใจ
 
บันทึกเรื่องราวโดย บรรยง วิทยวีรศักดิ์ อดีตนายกสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน (ปีพ.ศ. 2552-2554)