กรมการขนส่งทางรางเผยรถไฟฟ้าฟรีวันที่สองตามมาตรการลดฝุ่นละออง PM2.5 ในเขต กทม. และปริมณฑลของรัฐบาล พบว่ามีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ารวม 1.55 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้นร้อยละ 60.90 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันอาทิตย์ในสามสัปดาห์ของเดือนมกราคม 2568

วันนี้ (27 มกราคม 2568) นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า เมื่อวาน (26 มกราคม 2568) เป็นวันที่สองที่มีมาตรการส่งเสริมให้ใช้บริการขนส่งสาธารณะสำหรับรถไฟฟ้าทุกสายทางและรถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ฟรี ระหว่างวันที่ 25-31 มกราคม 2568 รวม 7 วัน เพื่อช่วยลดฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เกิดจากยานพาหนะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลตามข้อสั่งการของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี พบว่า มีผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 1,549,622 คน-เที่ยว ลดลงจากวันเสาร์ที่ 25 มกราคม 2568 จำนวน 84,824 คน-เที่ยว หรือลดลงร้อยละ 5.19 แต่ยังพบว่า มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 60.90 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันอาทิตย์ในสามสัปดาห์ของเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา (ค่าเฉลี่ยฯ 963,098 คน-เที่ยว) โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. รถไฟฟ้า Airport Rail Link มีผู้ใช้บริการจำนวน 69,199 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 17,697 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 34.36)

2. รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) มีผู้ใช้บริการจำนวน 43,083 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ  18,099 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 72.44)

3. รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) มีผู้ใช้บริการจำนวน 417,740 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 136,196 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 48.38)

4. รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) มีผู้ใช้บริการจำนวน 55,164 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 17,575 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 46.76)

5. รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) มีผู้ใช้บริการจำนวน 805,591 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 309,719 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 62.46)

6. รถไฟฟ้าสายสีทอง มีผู้ใช้บริการจำนวน 16,470 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 9,962 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 153.07)

7. รถไฟฟ้าสายนัคราพิพัฒน์ (สีเหลือง) มีผู้ใช้บริการจำนวน 64,662 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 34,512 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 114.47)

8. รถไฟฟ้าสายสีชมพูให้บริการ  มีผู้ใช้บริการจำนวน 77,713 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 42,764 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 122.36)

ซึ่งหากเรียงลำดับ จะพบว่า มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีทองเพิ่มมากขึ้น 1.53 เท่าเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยสามวันอาทิตย์ที่ผ่านมา  รองลงมาคือรถไฟฟ้าสายสายสีชมพู และสายสีเหลือง เพิ่มขึ้นร้อยละ 122.36 และร้อยละ 114.47 ตามลำดับ โดยทั้งสามสายทางเป็นระบบขนส่งมวลชนขนาดรอง (feeder) ที่มีเส้นทางผ่านที่อยู่อาศัยของประชาชนและเชื่อมโยงกับรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนหลัก

นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับรถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ให้บริการรวม 215 ขบวน มีผู้ใช้บริการจำนวน 80,964  คน-เที่ยว ประกอบด้วย ผู้โดยสารขบวนรถเชิงพาณิชย์ 35,504 คน-เที่ยว และขบวนรถเชิงสังคม 45,460 คน-เที่ยว ลดลงจากค่าเฉลี่ยฯ จำนวน 3,770 คน-เที่ยว หรือลดลงร้อยละ 4.45 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันอาทิตย์สามสัปดาห์ของเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ภาพรวมวันที่ 26 มกราคม 2568 มีผู้ใช้บริการระบบรางรวมทั้งสิ้น 1,630,586 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 582,754 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 55.62 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันอาทิตย์สามสัปดาห์ของเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา

นายพิเชฐ กล่าวปิดท้ายว่า จากข้อมูลกรมควบคุมมลพิษพบว่า  แหล่งกำเนิดฝุ่น PM 2.5 ที่สำคัญ มาจากไอเสียที่เกิดจากการเผาไหม้น้ำมันดีเซลและการจราจรติดขัด การเผาเศษวัสดุเหลือใช้ในภาคการเกษตร/เผาป่า/เผาขยะในที่โล่ง การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิลหรือถ่านหินในอุตสาหกรรมการผลิต ดังนั้นในด้านการคมนาคม เป็นการส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อจูงใจให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลควบคู่กับการส่งเสริมการทำงานที่บ้าน (Work from Home :WFH)

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการลดฝุ่นละอองจากงานก่อสร้าง (PM 10 และ PM 2.5) โดย ขร. ได้ประสานการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยและการรถไฟแห่งประเทศไทย กำชับผู้รับจ้างงานก่อสร้างปฏิบัติตามมาตรการลดฝุ่นละอองตามที่ระบุไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของโครงการ อาทิเช่น การติดตั้งรั้วสูงล้อมรอบพื้นที่ก่อสร้าง ทำความสะอาดล้อรถบรรทุกก่อนออกจากสถานที่ก่อสร้าง/ก่อนเข้าถนนสาธารณะ รวมทั้งการรักษาความสะอาดถนนสาธารณะบริเวณใกล้เคียงสถานที่ก่อสร้าง เพิ่มปริมาณการฉีดน้ำทำความสะอาดในพื้นที่ก่อสร้าง การตรวจสอบสภาพเครื่องจักรที่ใช้ในการก่อสร้างให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ การปิดคลุมกองวัสดุก่อสร้าง การจำกัดพื้นที่การทิ้งและห้ามเผาขยะในพื้นที่โครงการก่อสร้าง เพื่อช่วยลดฝุ่นละออง PM 10 และ PM 2.5 อีกทางหนึ่งด้วย

สำหรับในวันนี้เป็นวันแรกของสัปดาห์คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้าจำนวนมากในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเช้าและเย็น ขร. จึงได้ประสานผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าเพิ่มความถี่ในการให้บริการในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์ปริมาณผู้โดยสารที่สถานีรถไฟฟ้าต่าง ๆ เพื่อพิจารณาปรับเพิ่มความถี่ในการให้บริการและเพิ่มช่องทางการออกบัตร/เหรียญโดยสารเพิ่มเติม อีกทั้งได้ประสานผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าเร่งรัดการแก้ไขปัญหาเหตุขัดข้อง เพื่อให้สามารถกลับมาให้บริการได้ตามปกติโดยเร็ว สามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ ส่งผลให้ผู้ใช้บริการระบบรางได้รับความสะดวก รวดเร็วและมีความปลอดภัยสูงสุดต่อไป