“สุดาวรรณ”รมว.วัฒนธรรม ชงครม.เห็นชอบส่งเอกสารฉบับสมบูรณ์ขึ้นทะเบียนวัดพระมหาธาตุฯ นครศรีธรรมราช เป็นมรดกโลกเสนอศูนย์มรดกโลกยูเนสโกภายใน 31 ม.ค.นี้
น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า ได้เตรียมเอกสารการนำเสนอขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ที่จัดทำขึ้นตามหลักเกณฑ์ของยูเนสโกเสนอให้ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติรับรองในวันที่ 28 ม.ค. 68 ถือเป็นเอกสารขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกฉบับสมบูรณ์ที่ได้ปรับปรุงตามข้อแนะนำของศูนย์มรดกโลก ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศสอย่างครบถ้วน โดยที่ประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 ได้มีมติเห็นชอบให้เสนอเอกสารฉบับสมบูรณ์ดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นชอบในการนำส่งไปยังศูนย์มรดกโลก ณ กรุงปารีส ให้ทันกำหนดเวลาภายในวันที่ 31 มกราคมนี้ เพื่อให้ทันการเข้าสู่กระบวนการประเมินขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกของคณะกรรมการมรดกโลก
รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดทำเอกสารดังกล่าว กรมศิลปากรร่วมกับจังหวัดนครศรีธรรมราช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ของยูเนสโก เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการสนับสนุนให้มีการประกาศขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมในทุกภูมิภาคของรัฐบาล ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ภาคใต้ยังไม่มีแหล่งมรดกวัฒนธรรมที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งเอกสารนำเสนอถึงเหตุผลและคุณค่าโดดเด่นระดับสากลในการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก โดยวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ถือเป็นแหล่งมรดกวัฒนธรรมที่แสดงถึงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู พุทธศาสนามหายาน และพุทธศาสนาเถรวาท ในทางตอนใต้ของภูมิภาคเอเชียภาคพื้นสมุทรที่โดดเด่นที่สุด เป็นศาสนสถานที่ยังคงใช้งานมาอย่างต่อเนื่องราว 1,500 ปี เป็นศูนย์กลางของประเพณีที่ยังคงดำรงอยู่ด้วยระบบความเชื่อที่หลากหลายและผสมผสานเป็นเอกลักษณ์ สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์กับชุมชนโดยรอบอย่างแน่นแฟ้นและเด่นชัด
สำหรับการเสนอขึ้นทะเบียนกำหนดขอบเขตพื้นที่นำเสนอขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกและพื้นที่กันชนพื้นที่นำเสนอ มีอาณาเขตเท่ากับพื้นที่ของวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราชพื้นที่กันชน มีอาณาเขตเท่ากับพื้นที่เมืองเก่านครศรีธรรมราชสมัยอยุธยาที่มีกำแพงเมือง - คูเมืองล้อมรอบ ทั้งนี้แหล่งวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ได้รับการบรรจุรายชื่อในบัญชีชั่วคราวเมื่อปี 2555 จ.นครศรีธรรมราชได้ดำเนินการศึกษาและจัดทำเอกสารขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก และกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอขอประกาศขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกวัฒนธรรมเป็นมรดกโลก เช่น กระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน การอบรมและประชุมสัมมนาทางวิชาการ การศึกษาผลกระทบ การบริหารจัดการแหล่งมรดกวัฒนธรรม และการอนุรักษ์โบราณสถาน ร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง