วันที่ 27 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวการหาเสียงเลือกตั้งนายกฯ อบจ.เชียงราย ที่จะมีการเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้ ว่า นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายกฯ อบจ.เชียงราย เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย พร้อมคณะได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนขอคะแนนอย่างหนัก และต่อเนื่อง วันละหลายจุด ทั้งปราศรัยย่อย ปราศรัยใหญ่ 

ซึ่งวันนี้ ได้เปิดบ้าน พื้นที่อำเภอแม่จัน โดยมีประชาชนที่ให้การสนับสนุนมาร่วมรับฟังอย่างคับคั่ง ท่ามกลางอากาศร่มรื่นเย็นสบาย ประชาชนบางส่วนโดยสารมากับรถอีแต๋น เพื่อมาร่วมรับฟังการปราศรัย ก่อนที่วันพุธที่ 29 ม.ค. 68 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บิดานางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี , หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีกำหนดจะเดินทางมาที่จังหวัดเชียงราย ขอคะแนนเสียงที่อำเภอเมืองเชียงราย และอำเภอพาน เพื่อช่วยนางสลักจฤฏดิ์ หาเสียง 

​​​​​นางสาวปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย บุตรสาวนางสลักจฤฎดิ์ ผู้ช่วยหาเสียง ได้ปราศรัย โดยขอให้ประชาชน ในพื้นที่ให้การสนับสนุนผู้สมัครนายกฯ อบจ.จากพรรคเพื่อไทย 

เพราะห้วงที่ผ่านมา นางสลักจฤฎดิ์ ได้ทำหน้าที่จิตอาสา และอยู่เคียงข้างประชาชนมาตลอด ไม่เคยหายไปไหน และหากผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยได้รับการเลือกตั้งจะง่ายต่อการประสานกับรัฐบาลกลาง เพื่อของบสนับสนุนช่วยดูแลประชาชนได้มากขึ้น เพราะตัวเอง เป็น สส.พรรคเพื่อไทยด้วย

นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงให้นางสลักจฤฎดิ์ ผู้สมัครนายกฯ อบจ.เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ประชาชนชาวเชียงราย ให้การตอบรับและตื่นตัวอย่างมาก เพราะทางผู้สมัครและทีม ได้ลงพื้นที่หาเสียงในทุกอำเภอ ทั้งปราศรัยใหญ่ , ย่อย 

โดยได้นำเสนอนโยบาย แนวความคิดหลายอย่างที่ประชาชนจับต้องได้ ทั้งนำเสนอแนวคิดเรื่องการพัฒนาจังหวัดโดยเชื่อมโยงกับส่วนกลาง-รัฐบาล ในรูปแบบเชียงรายโมเดล

”จะทำให้เชียงรายเป็นโมเดล ให้เห็นถึงการช่วยเหลือประชาชนในด้านต่าง ๆ ต้องปรับจากที่เกษตรกรเป็นต้นน้ำ (ผู้ผลิต) ทาง อบจ.เอง ต้องเข้ามาอยู่กลางน้ำ หาพื้นที่ตลาดกลาง ลดนายทุนผูกขาดที่เอาเปรียบชาวบ้าน“

นายยงยุทธ กล่าวว่า ผู้สมัครนายกฯ อบจ.เชียงราย จากพรรคเพื่อไทย ได้เสนอนโยบายหลัก TONY Brand ผลักดันสินค้าและบริการเชียงรายสู่แบรนด์ระดับโลก ส่งเสริมสินค้าเกษตรปลอดภัย และเทศกาลนานาชาติ, จัดตั้งศูนย์โดรนการเกษตรประจำตำบล 124 ตำบล พร้อม “1 ตำบล 1 นักบินโดรน” ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และแก้ปัญหาไฟป่า, จัดตั้งศูนย์บาดาลการเกษตรทุกตำบล เพื่อให้มีแหล่งน้ำเพียงพอและประหยัดพลังงาน, สร้างถนนสายเศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ที่มีแต่รถไฟฟ้าล้อยางวิ่ง จากหน้ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงไปถึงรถไฟสายใหม่ ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร เพื่อจะได้นำสินค้าเกษตร และของดีทั้ง 18 อำเภอ จากจังหวัดเชียงราย ต่อยอด OTOP มาวางจำหน่าย ในรูปแบบห้างสรรพสินค้า ตามจุดอำเภอนั้น ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยว ได้จับจ่ายซื้อสินค้า เหมือนกับที่คนไทย เดินทางไปต่างประเทศ แล้วซื้อสินค้ากลับมา

“ถนนเส้นนี้ นอกจากจะขายสินค้าและของดีประจำอำเภอทั่วจังหวัดเชียงรายแล้ว ทาง อบจ.ยังได้คิดที่จะจัดงานเนื่องในเทศกาลต่าง ๆ เพื่อดึงดูด ให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสด้วย”

นอกจากนั้น อบจ.จะต้องสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึง , ส่งเสริมเรื่องการศึกษา การกีฬา , สนับสนุนให้ประชาชนในพื้นที่มีโอกาสได้เรียนภาษาที่ 2 ภาษาที่ 3 เพื่อจะได้สื่อสารกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อ สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเพิ่มสูงขึ้น

“อบจ.ต้องปรับตัวเองให้เข้ากับโลกยุคใหม่ โลกออนไลน์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยหากผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ได้รับการเลือกตั้งเป็น นายกฯ อบจ.เชียงราย จะต้องดำเนินการสร้าง แอปฯ อบจ.เชียงราย : สลักจฤฎด์ ทีมเพื่อไทย เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ ร้องเรียน สะท้อนปัญหา เพื่อให้ อบจ.เชียงราย แก้ไขต่อไป”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายยงยุทธ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ได้ลงพื้นที่พบปะ ประชาชนชุมชนบ้านปูนหลวง พื้นที่อำเภอเวียงป่าเป้า ซึ่งมีประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์ ลาหู่ อาศัยอยู่ ซึ่งหลังจากได้รับฟังแนวนโยบายแล้ว ต่างพอใจแนวความคิดของผู้สมัคร ทั้งการแก้ปัญหาดินสไลด์ รวมทั้งจะใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาพักผ่อน รวมถึงซื้อสินค้าเกษตรกรที่มีอัตลักษณ์ อย่างยั่งยืนได้อีกด้วย