นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมคณะอนุกรรมการฯ และที่ปรึกษาฯ เดินทางไปติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พื้นที่จังหวัดตาก เป็นวันที่ 2 โดยมีนางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) นายวัชระ เสือดี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมชลประทาน (ด้านบำรุงรักษา) นายทวีวัฒน์ สืบสุขมั่นสกุล ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 4 นายมาโนช ตุ้มทอง ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน นายสัณฐิต พีรานนท์ ผู้อำนวยการกองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปยังโครงการอนุรักษ์สภาพป่าแม่ตื่นอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ณ ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น ซึ่งองคมนตรี ได้เชิญสิ่งของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปมอบแก่ราษฎรและผู้ปฏิบัติงาน ประกอบด้วย เสื้อกันหนาวมอบให้แก่เด็กในพื้นที่โครงการฯ จำนวน 80 ตัว และถุงพระราชทานแก่ราษฎรและผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่โครงการฯ จำนวน 181 ถุง พร้อมรับฟังสรุปผลการดำเนินงาน

จากนั้น องคมนตรี และคณะ เดินทางไปยังแปลงเกษตรกรตัวอย่างการปลูกพืชแบบระบบวนเกษตร ขั้นบันไดแบบต่อเนื่อง โดยร่วมกิจกรรมปลูกหญ้าแฝกและทำฝายชะลอน้ำ เพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ อีกด้วย

นอกจากนี้ องคมนตรี และคณะ ได้เดินทางไปติดตามผลการดำเนินงานโครงการปรับปรุงโรงสูบน้ำหน่วยที่ 3 อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลเกาะตะเภา อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก ซึ่งเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2563 ตามที่ นายทวีศักดิ์ จิตต์สำราญ ราษฎรบ้านแม่ยะ ตำบลเกาะตะเภา อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก ขอพระราชทานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อช่วยเหลือราษฎร ซึ่งขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรในฤดูแล้ง โดยกรมชลประทานได้ดำเนินการปรับปรุงโรงสูบน้ำหน่วยที่ 3 พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำชนิดหอยโข่ง ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า อัตราสูบ 0.35 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จำนวน 1 เครื่อง เพื่อให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น แล้วเสร็จในปี 2566 สามารถส่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคให้แก่ราษฎรตำบลเกาะตะเภา อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก จำนวน 1,768 ครัวเรือน ประชากร 6,426 ราย ตลอดจนสามารถส่งน้ำสำหรับพื้นที่การเกษตรของราษฎร ในฤดูฝน ประมาณ 8,500 ไร่ และในฤดูแล้ง ประมาณ 5,000 ไร่

ปัจจุบันมีกลุ่มผู้ใช้น้ำ "สหกรณ์ผู้ใช้น้ำชลประทานเกาะตะเภา-ตากตก" มีสมาชิก 127 ราย ร่วมกันบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ กรมชลประทาน ยังมีแผนงานที่จะดำเนินการก่อสร้างโครงการพัฒนาอาคารบังคับน้ำในแม่น้ำปิงท้ายเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก ระยะเวลาดำเนินโครงการ 4 ปี (พ.ศ. 2568 – 2571) ซึ่งจะเป็นแหล่งเก็บกักน้ำในช่วงฤดูแล้ง ไว้เพื่อการอุปโภคบริโภค สนับสนุนพื้นที่การเกษตร ตลอดจนบรรเทาความเสียหายของอุทกภัย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนให้กับราษฎร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของราษฎรที่อยู่ในเขตพื้นที่โครงการต่อไป