พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. และ พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล รรท.ผบก.ภ.จว. สมุทรสาคร และ ชุดสืบสวนนครบาล ร่วมกันจับนายภัทรกร อายุ 28 ปี ในข้อหา " มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย " โดยจับบริเวณซอยสันติปรีชา ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

พร้อมของกลาง อาวุธปืน (M 79) จำนวน 1 กระบอก , อาวุธปืนอาก้า  จำนวน 6 กระบอก , แมกกาซีน จำนวน 17 อัน , เครื่องกระสุนปืนขนาด 7.62 จำนวน ประมาณ 8,000 นัด , เครื่องกระสุนปืนขนาด M 60 จำนวน ประมาณ 500 นัด

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กำชับสั่งการให้ระดมกวาดล้างผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างรวมทั้งกวาดล้างผู้ที่ลักลอบค้าอาวุธปืน อาวุธสงคราม และเครื่องกระสุนปืน ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล นำโดย พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. สั่งการให้สืบสวนหาข่าวกลุ่มผู้ค้าลักลอบขายปืนเถื่อนรายใหญ่เพื่อป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดในพื้นที่

ชุดสืบสวนนครบาล ได้เฝ้าติดตามแก๊งค้าอาวุธสงครามมาเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากก่อนหน้านี้ชุดสืบสวนนครบาล เข้าตรวจค้นที่บ้านพักของผู้ต้องหาคนดังกล่าวแต่ไม่พบของกลาง ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบเคยถูกแจ้งข้อหาการครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย ในพื้นที่ สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จึงได้ติดตามสืบสวนแก๊งค้าอาวุปืนกลุ่มนี้

ต่อมาการสืบสวนทราบว่าในวันที่ 24 ม.ค.ช่วงเวลากลางคืนจะมีการลักลอบขนอาวุธปืนสงคราม นำมาจำหน่ายจึงสะกดรอยตามแก๊งดังกล่าวพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน จอดอยู่บริเวณดังกล่าว ชุดสืบสวนจึงตรวจค้นภายในรถยนต์พบอาวุธปืน อาวุธสงครามเป็นจำนวนมาก มีการทำสีพ่นใหม่และอยู่ในสภาพใช้การได้

พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยอีกว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหารับว่า รับอาวุธปืนทั้งหมดมาจากบริเวณ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนนำเข้ามายังจุดพักใน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นสถานที่ที่เตรียมไว้ และจะนำส่งขายต่อไปยังปลายทาง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาแล้วประมาณ 2 - 3 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 20,000 บาท

สำหรับช่องทางการขายนั้นเป็นการติดต่อโดยตรงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ราคาขายอยู่ที่ราคา 40,000 - 60,000 บาท อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางตำรวจการขยายผลสืบสวนเพื่อหาตัวการผู้อยู่เบื้องหลังต่อไป.