นักท่องเที่ยวนับพันพากันเข้าชมและดมกลิ่น “ดอกซากศพ” ที่กำลังผลิบานในออสเตรเลีย แม้รอคิวนาน 2 ชั่วโมง เผยดอกผลิบานยาก และทั่วโลกเหลือไม่ถึง 1 พันต้น จนต้องขึ้นทะเบียนพืชใกล้สูญพันธุ์

เมื่อวันที่ 24 ม.ค.68 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บรรดานักท่องเที่ยวรวมแล้วจำนวนนับพันคน ต่างพากันเดินทางมายังสวนพฤกษศาสตร์หลวง ในนครซิดนีย์ เมืองหลวงของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์นี้ เพื่อมาชมและดมกลิ่นของ “ดอกบุกยักษ์” หรือที่หลายคนเรียกว่า “ดอกซากศพ” เพราะมีกลิ่นเน่าเหม็นคล้ายกับกลิ่นของสัตว์ที่ตายแล้วและกำลังเน่า เช่น หนูตาย เป็นต้น ซึ่งกำลังผลิบานในเวลานี้

รายงานข่าวแจ้งว่า เหล่านักท่องเที่ยวต้องเข้าคิวยาวนานถึง 2 ชั่วโมง เพื่อที่จะได้เข้าชมและดมกลิ่นของดอกซากศพ โดยนักท่องเที่ยวเปิดเผยถึงกลิ่นของมันที่แตกต่างกันไป โดยบ้างก็ว่า กลิ่นของมันเหม็นเหมือนกลิ่นถุงเท้าที่ใส่แล้ว บ้างก็ว่า กลิ่นเหมือนหนูตาย บ้างก็ว่า กลิ่นเหมือนเศษอาหารบูด ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวหลายราย นอกจากมาชมและดมกลิ่นแล้ว ก็ยังใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเซลฟี่คู่กับดอกซากศพเป็นที่ระลึกอีกด้วย

รายงานข่าวเผยว่า การผลิบานของดอกซากศพ มีขึ้นไม่บ่อยนัก โดยต้นที่ปลูกไว้ในสวนพฤกษศาสตร์หลวงของนครซิดนีย์แห่งนี้ ผลิบานมาเพียง 5 ครั้งเท่านั้น นับตั้งแต่นำมาปลูก โดยเคยผลิบานในปี 2004 (พ.ศ. 2547) 2006 (พ.ศ. 2549) 2008 (พ.ศ. 2551) 2010 (พ.ศ. 2553) และ 2025 (พ.ศ. 2568) ครั้งล่าสุด

สำหรับ ต้นดอกซากศพนี้ มีต้นกำเนิดในเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย โดยปัจจุบันในธรรมชาติเหลือไม่ถึง 1,000 ต้น จนได้รับการขึ้นบัญชีรายชื่อให้เป็นพืชใกล้สูญพันธุ์