เดือดร้อนยันผี โจรอาละวาดก่อเหตุลักตะแกรงเหล็กรองเผาศพ 3 ครั้งรวด
เดือดร้อนถึงคนตาย โจรใจกล้าอาละวาดลักไม่เหลือเปิดประตูเตาเผาศพฉกเกลี้ยงตะแกรงเหล็กรองเผาศพน้ำหนักร่วม 100 กก.พระสัปเหร่อระบุนอนไม่หลับร้อนใจต้องมาดูพบหายเกลี้ยงแล้ว-ฝากถึงร้านรับซื้อสำนึกต้องมี
เหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2568 ที่วัดเทพนมเชือด (เทบ-นม-เชือด) หมู่ 7 ตำบลร่อนพิบูลย์ อำเภอร่อนพิบูลย์ นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบข้อมูลหลังจากรับแจ้งว่ามีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุโจรกรรมตะแกรงเหล็กสำหรับรองศพขณะทำการฌาปนกิจ ในเตาเผาศพของวัด โดยมี “ท่านนวล” หรือพระสิริอุทโย พระลูกวัดและยังเป็นพระสัปเหร่อคอยดูแลเรื่องทำการฌาปนกิจศพ ได้นำไปดูบนเมรุเผาศพ เมื่อเปิดประตูพบว่าเป็นเมรุแบบใช้ถ่านเป็นเชื้อเพลิง มีเพียงเตาเหลืออยู่เท่านั้น ส่วนตะแกรงเหล็กรองศพหายไปทั้งหมด
พระสิริอุทโย ระบุว่าคนร้ายน่าจะก่อเหตุราว 3-4 วันก่อน รู้ว่าหายเมื่อช่วงกลางดึกนอนไม่หลบร้อนใจอยากจะมาดูบริเวณเมรุและเตาเผาศพ จึงเดินมาดูด้านหลังไม่มีอะไรผิดปกติ เมื่อมาเปิดประตูเตาจึงพบว่าตะแกรงเผาศพหายไปหมดแล้ว จึงไปแจ้งพระครูสิริวรรณาพร เจ้าอาวาสทราบ สำหรับตะแกรงเหล็กรอบนี้หายเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ครั้งแรกเป็นตะแกรงเหล็กหล่อเป็นชิ้นราว 10 ชิ้น ชิ้นละกว่า 20 กิโลกรัม ราคาชิ้นละประมาณ 2,500 บาท หายไปทั้งหมด ต่อมาจึงตัดแปลงใช้เหล็กข้ออ้อยเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้วหลายเส้นมาเชื่อมเป็นตะแกรงทดแทนน้ำหนักประมาณหลายสิบกิโลกรัมหรือมากกว่า 1 ร้อยกิโลกรัม หายอีกครั้ง หลังจากนั้นทำใหม่ เหมือนเดิม ครั้งนี้หายเป็นครั้งที่ 3
พระสิริอุทโย ยังระบุว่าด้วยว่าไม่เฉพาะตะแกรงเผาศพของใช้ในวัดอื่นๆหายไปมากแต่ไม่ได้มีการแจ้งความ เจ้าอาวาสท่านเมตตา ท่านบอกว่าทัพย์สินทั้งหมดล้วนเป็นของชาวบ้าน เป็นสาธารณะการเข้ามาก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับสาธารณะ หากไปแจ้งความอีกยิ่งไปสร้างความเดือดร้อนสร้างความวุ่นวาย ทางวัดต้องเร่งแก้ไขปัญหานี้
ตอนนี้ทราบว่ามีศพที่อาจต้องใช้เมรุที่นี่เผา แต่ขณะนี้ยังใช้ไม่ได้ต้องเร่งหาเหล็กมาเชื่อมทดแทนก่อนเพื่อรองรับการเผาศพของญาติโยมไม่ให้เดือดร้อน อยากฝากไปถึงร้านรับซื้อของเก่าควรมีสำนึกด้วย พวกก่อเหตุคงเป็นพวกขี้ยาติดยเสพติดไม่ใกล้ไม่ไกลจะไปกล่าวหาใครจำเพาะเจาะจงก็เป็นบาปไม่ได้มีหลักฐาน
ขณะที่พระครูสิริวรรณาพร ระบุว่าการก่อเหตุมี 2 แบบคือเอาไปขายเศษเหล็กในราคากิโลกรัมละ 5 บาท แต่ถ้าวัดไปซื้อที่ร้านคือ 25 บาท คนก่อเหตุคงเอาเงินไปใช้ ในวัดมีการก่อเหตุแล้วต่อเนื่องลักทุกอย่างที่ลักได้แม้กระทั่งตู้เซฟเงินทำบุญของวัด ลักอีกแบบคือลักไปทำของขลังตามความเชื่อ แต่ที่ภาคใต้ไม่ค่อยมีความเชื่อแบบนั้น จะทำรั้วรอบขอบชิดเพื่อป้องกันก็ไม่ได้เพราะวัดเป็นที่สาธารณะ วัดไม่ใช่ของสมภารแต่เป็นวัดของทุกคน ต้องอาศัยทุกคนในการช่วยกันดูแลรักษาป้องกัน.////