วันที่ 24 ม.ค.68 จากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 พุ่งสูงหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานคร ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้นถึงการแก้ปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 ของ กทม. โดยที่ผ่านมา กทม.ประกาศขอความร่วมมือ Work From Home และจำกัดรถบรรทุกที่ไม่ได้ลงทะเบียนเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องไส้กรองตามโครงการบัญชีสีเขียว (Green List) เข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษก รวมถึงมีการพิจารณาปิดโรงเรียนในสังกัด กทม.แล้ว 352 แห่ง จากทั้งหมด 437 แห่ง ระหว่างวันที่ 20-24 ม.ค.68
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวว่า มีคนให้ข่าวว่า กทม.ลอยตัว ไม่ทำอะไรเลยเรื่องฝุ่น และมีเพื่อนโทรมาบอกตนว่า "ออกไปสร้างภาพหน่อย ไปตรวจควันดำรถเมล์หน่อย" เรื่องพวกนี้ตนมองไร้สาระ จะมาสร้างภาพตอนนี้ไม่ได้ เรื่องแก้ไขฝุ่น PM2.5 ต้องทำมาเป็นปีแล้ว ซึ่งตนขออธิบายว่า กทม.ไม่ได้เพิ่งจะมาแก้ปัญหาในวันนี้ แต่ได้ทำมานับปีแล้ว โดยตั้งแต่เดือน ต.ค.67-ม.ค.68 กทม.ได้ดำเนินการเรื่องนี้ไปแล้ว เช่น ตรวจควันดำรถยนต์แล้วกว่า 260,000 คัน ห้ามใช้ไปกว่า 3,096 คัน ตรวจรถประจำทางกว่า 65,000 คัน ให้หยุดใช้งานไป 145 คัน ตรวจรถบรรทุกกว่า 140,000 คัน ให้หยุดใช้งานไป 723 คัน ตรวจรถควันดำในสถานที่ก่อสร้าง 3,660 คัน ให้หยุดใช้ไป 19 คัน ตรวจโรงงานในพื้นที่ กทม. 2,236 โรงงาน กว่า 14,580 ครั้ง ให้หยุดทำการไป 8 ครั้ง ตรวจโรงงานผลิตคอนกรีตผสมเสร็จทั้งหมด 105 โรงงาน กว่า 2,626 ครั้ง ให้หยุดทำการ 17 ครั้ง สถานที่ก่อสร้าง 231 แห่ง ของสำนักการโยธา ตรวจแล้วกว่า 4,936 ครั้ง สั่งหยุดทำการไป 33 ครั้ง เป็นต้น
"เรื่องฝุ่นไม่ได้มาทำวันนี้ ไม่ใช่มาสร้างภาพกัน ทำมาเป็นปีแล้ว เรื่องรถควันดำพยายามตรวจตลอดตรวจเป็นแสนคันแล้ว แต่การตรวจควันดำไม่ใช่จะแก้ปัญหาทั้งหมด เพราะควันยังปล่อย PM2.5 อยู่ เพราะมาตรฐานที่กรมขนส่งทางบกใช้กับที่กรมควบคุมมลพิษใช้ต่างกัน การปล่อยควันดำหรือควันขาวจึงยังผ่านการตรวจได้ เป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาต่อไป แต่ต้องบอกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาแก้ปัญหามาตลอดไม่ได้นิ่งเฉย ซื้อเครื่องมือตรวจควันดำแจกทุกหน่วยงาน แต่เรื่องควันดำอย่างเดียวไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 ได้ทั้งหมด อาจจะบรรเทาได้บางส่วน ยังมีหลายปัจจัยร่วมด้วย คนที่บอกว่าไม่เห็นทำอะไรก็ต้องบอกว่ามีนะแต่คงไม่ได้มาสร้างภาพแก้ไขในวันนี้ ต้องทำต่อเนื่องยาวนานเพราะรถในกรุงเทพฯมีเป็นล้านคัน ตรวจวันเดียวไม่มีความหมาย ต้องตรวจเป็นปีที่ผ่านมา"
นายชัชชาติ กล่าวว่า ฝุ่นส่วนใหญ่ในวันนี้มาจากการเผาด้านนอก ส่วนฝุ่นจากควันรถถูกความร้อนจากสภาพอากาศปิดกั้นไม่ให้ระบายออกไป สำนักสิ่งแวดล้อมลงพื้นที่สำรวจ จ.นครนายก พบการเผาจำนวนมาก ซึ่งนายก อบจ.ยอมรับว่ามีการเผาจริง เพราะเป็นต้นข้าวขนาดใหญ่ที่ปลูกเป็นนาปี ไม่สามารถนำไปอัดฟางได้ วิธีที่ดีที่สุดคือการเผาในจำนวนมหาศาล ลมที่พัดจาก จ.นครนายกเข้ากรุงเทพฯ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพฯสูงขึ้น ไม่โทษใคร เพราะเป็นความจริงที่เกิดขึ้น ต้องพยายามปรับตัว ดูแลตัวเอง กทม.จะพยายามทำในส่วนของตัวเองให้ดีที่สุด เช่น เหตุไฟไหม้หญ้าต่าง ๆ กทม.ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปเต็มที่ แต่ต่างจังหวัดไม่มีกำลังเพียงพอจะทำได้ จึงต้องปล่อยให้ไหม้ให้หมด
"เราพยายามทำหน้าที่ เรื่องนี้เป็นแผนต่อเนื่อง ขอให้รับทราบข้อมูลตรงนี้ด้วยเป็นกำลังใจให้กับคนที่ทำงาน ไม่ใช่ผมนะ แต่เป็นคนที่ออกตรวจทุกวันทุกเช้า โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่สำนักสิ่งแวดล้อม" นายชัชชาติ กล่าว