ป.ป.ส. ชี้แจงเก็บของกลางยาเสพติด หลังรับมอบจากชุดจับกุมก่อนนำไปทำลาย ยืนยันไม่มีรั่วไหลออกจากระบบ
วันที่ 3 ม.ค.62 เวลา 14.00 น. ณ สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) เขตทุ่งสองห้อง กรุงเทพฯ นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย น.ส.กัญญนันท์ คงภัสนิธิโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด แถลงผลการดำเนินการต่อของกลางยาเสพติดที่ถูกจับกุม 2 คดี ในพื้นที่ สภ.เวียงชัย และ สภ.แม่เจดีย์ จ.เชียงราย กว่า 30 ล้านเม็ด คีตามีน 60 กิโลกรัม ตั้งแต่ขั้นตอนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พนักงานสอบสวน การส่งมอบของกลางการตรวจรับ การตรวจพิสูจน์ยาเสพติด พร้อมเปิดห้องมั่นคง ที่เก็บรักษายาเสพติดก่อนเผาทำลาย
นายนิยม กล่าวว่า การจับกุมขบวนการยาเสพติดในช่วงหลัง พบว่าแต่ละครั้งมีจำนวนมากขึ้นนับล้านเม็ด ซึ่งสังคมอาจสงสัยว่ายาเสพติดดังกล่าวมีการรั่วไหลหรือเล็ดลอดออกมา ซึ่งกระบวนการดำเนินการมีส่วนเกี่ยวข้อง 6 ส่วน ประกอบด้วย 1.ผู้จับกุมหรือชุดปฏิบัติการ จับกุมผู้กระทำความผิดได้ตรวจสอบปริมาณและน้ำหนัก พร้อมทั้งจัดทำบันทึกการตรวจยึดจับกุม และนำยาเสพติดของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนโดยเร็ว 2.ผู้ต้องหา 3.พนักงานสอบสวน เมื่อได้รับของกลางแล้วต้องบรรจุยาเสพติดลงในภาชนะที่เรียบร้อย แข็งแรง พร้อมลงลายมือชื่อชุดจับกุม พนักงานสอบสวน และผู้ต้องหา ลงเลขคดี พร้อมทั้งจัดทำหนังสือนำส่งยาเสพติดไปตรวจพิสูจน์ และให้พนักงานสอบสวนหรือนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร นำยาเสพติดของกลางทั้งหมดส่งสถานตรวจพิสูจน์โดยเร็ว 4.เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์ ทำการตรวจสอบว่าตรงกับรายการที่ระบุในหนังสือนำส่งหรือไม่ จากนั้นสถานตรวจพิสูจน์ จะทำการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดตามขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์ และรายงานผลการตรวจพิสูจน์ให้พนักงานสอบสวนทราบ
ส่วนของกลางที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์ จะถูกส่งไปเก็บรักษาที่คลังเก็บรักษาของกลางกระทรวงสาธารณสุข โดยจะไม่มีการส่งยาเสพติดกลับไปให้กับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมหรือพนักงานสอบสวนอีก 5.คณะทำงานเก็บรักษาของกลางของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะเป็นผู้ตรวจรับและทำบัญชีเก็บไว้เป็นหลักฐาน และเก็บรักษาไว้จนกว่าศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา หรือมีคำสั่งให้ริบยาเสพติดให้โทษของกลางดังกล่าว และ 6.คณะทำงานตรวจรับของกลางนำไปเผาทำลาย โดยมีผู้แทนจากหลายหน่วยงานร่วมทำการตรวจสอบว่ายาเสพติดมิได้หายไปไหน หลังจากนั้นก็จะนำยาเสพติดของกลาง ส่งต่อให้กับคณะขนย้าย เพื่อทำการขนยาเสพติดของกลางดังกล่าวไปยังสถานที่เผาทำลาย และส่งยาเสพติดของกลางดังกล่าว ให้กับคณะเผาทำลาย เพื่อดำเนินการเผาทำลายจนหมดสิ้น ขอยืนยันว่าทุกขั้นตอนไม่มีการรั่วไหลแน่นอน
"ขั้นตอนการดำเนินการต่อของกลางคดียาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. โดยสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด จะมีคณะกรรมการตรวจรับ ตรวจสภาพภาชนะที่บรรจุยาเสพติดของกลาง ตรวจสภาพยาเสพติดของกลาง ทำการตรวจสอบลักษณะกายภาพ บันทึกรายละเอียด ภาชนะบรรจุสิ่งห่อหุ้ม ทั้งภายนอกและภายใน บันทึกลักษณะเม็ดยา สี ตราประทับ ตรวจนับจำนวน และชั่งน้ำหนัก ทำการตรวจสอบเบื้องต้น ต่อหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นผู้นำส่งของกลาง ร่วมกันลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนั้น จะบรรจุของกลางทั้งหมดลงในกระสอบ ปิดผนึก ส่งมอบให้คณะกรรมการกลาง เพื่อนำของกลางเก็บรักษาในห้องนิรภัยกลาง หรือที่เรียกว่า “ห้องมั่นคง” และเมื่อทำการตรวจพิสูจน์ แล้วเสร็จ จะนำของกลางที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์ ส่งไปเก็บรักษาที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อนนำไปเผาทำลายในวันที่ 26 มิ.ย. ของทุกปี ซึ่งเป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลก”
ด้าน น.ส.กัญญนันท์ กล่าวว่า สำหรับปริมาณยาเสพติดใน 1 ห่อ มีจำนวน 5 มัดๆ 2,000 เม็ด เท่ากับ 1 ห่อมี 10,000 เม็ด โดยเจ้าหน้าที่สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติดจะมีการเก็บของกลางไว้ประมาณ 2 เดือน เพื่อตรวจแยกสารเสพติด 1 เดือน และจัดทำรายการส่งไปยัง อย. เพื่อเผาทำลายอีก 1 เดือน
นายนิยม กล่าวว่า การจับกุมขบวนการยาเสพติดในช่วงหลัง พบว่าแต่ละครั้งมีจำนวนมากขึ้นนับล้านเม็ด ซึ่งสังคมอาจสงสัยว่ายาเสพติดดังกล่าวมีการรั่วไหลหรือเล็ดลอดออกมา ซึ่งกระบวนการดำเนินการมีส่วนเกี่ยวข้อง 6 ส่วน ประกอบด้วย 1.ผู้จับกุมหรือชุดปฏิบัติการ จับกุมผู้กระทำความผิดได้ตรวจสอบปริมาณและน้ำหนัก พร้อมทั้งจัดทำบันทึกการตรวจยึดจับกุม และนำยาเสพติดของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนโดยเร็ว 2.ผู้ต้องหา 3.พนักงานสอบสวน เมื่อได้รับของกลางแล้วต้องบรรจุยาเสพติดลงในภาชนะที่เรียบร้อย แข็งแรง พร้อมลงลายมือชื่อชุดจับกุม พนักงานสอบสวน และผู้ต้องหา ลงเลขคดี พร้อมทั้งจัดทำหนังสือนำส่งยาเสพติดไปตรวจพิสูจน์ และให้พนักงานสอบสวนหรือนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร นำยาเสพติดของกลางทั้งหมดส่งสถานตรวจพิสูจน์โดยเร็ว 4.เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์ ทำการตรวจสอบว่าตรงกับรายการที่ระบุในหนังสือนำส่งหรือไม่ จากนั้นสถานตรวจพิสูจน์ จะทำการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดตามขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์ และรายงานผลการตรวจพิสูจน์ให้พนักงานสอบสวนทราบ
ส่วนของกลางที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์ จะถูกส่งไปเก็บรักษาที่คลังเก็บรักษาของกลางกระทรวงสาธารณสุข โดยจะไม่มีการส่งยาเสพติดกลับไปให้กับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมหรือพนักงานสอบสวนอีก 5.คณะทำงานเก็บรักษาของกลางของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะเป็นผู้ตรวจรับและทำบัญชีเก็บไว้เป็นหลักฐาน และเก็บรักษาไว้จนกว่าศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา หรือมีคำสั่งให้ริบยาเสพติดให้โทษของกลางดังกล่าว และ 6.คณะทำงานตรวจรับของกลางนำไปเผาทำลาย โดยมีผู้แทนจากหลายหน่วยงานร่วมทำการตรวจสอบว่ายาเสพติดมิได้หายไปไหน หลังจากนั้นก็จะนำยาเสพติดของกลาง ส่งต่อให้กับคณะขนย้าย เพื่อทำการขนยาเสพติดของกลางดังกล่าวไปยังสถานที่เผาทำลาย และส่งยาเสพติดของกลางดังกล่าว ให้กับคณะเผาทำลาย เพื่อดำเนินการเผาทำลายจนหมดสิ้น ขอยืนยันว่าทุกขั้นตอนไม่มีการรั่วไหลแน่นอน
"ขั้นตอนการดำเนินการต่อของกลางคดียาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. โดยสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด จะมีคณะกรรมการตรวจรับ ตรวจสภาพภาชนะที่บรรจุยาเสพติดของกลาง ตรวจสภาพยาเสพติดของกลาง ทำการตรวจสอบลักษณะกายภาพ บันทึกรายละเอียด ภาชนะบรรจุสิ่งห่อหุ้ม ทั้งภายนอกและภายใน บันทึกลักษณะเม็ดยา สี ตราประทับ ตรวจนับจำนวน และชั่งน้ำหนัก ทำการตรวจสอบเบื้องต้น ต่อหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นผู้นำส่งของกลาง ร่วมกันลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนั้น จะบรรจุของกลางทั้งหมดลงในกระสอบ ปิดผนึก ส่งมอบให้คณะกรรมการกลาง เพื่อนำของกลางเก็บรักษาในห้องนิรภัยกลาง หรือที่เรียกว่า “ห้องมั่นคง” และเมื่อทำการตรวจพิสูจน์ แล้วเสร็จ จะนำของกลางที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์ ส่งไปเก็บรักษาที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อนนำไปเผาทำลายในวันที่ 26 มิ.ย. ของทุกปี ซึ่งเป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลก”
ด้าน น.ส.กัญญนันท์ กล่าวว่า สำหรับปริมาณยาเสพติดใน 1 ห่อ มีจำนวน 5 มัดๆ 2,000 เม็ด เท่ากับ 1 ห่อมี 10,000 เม็ด โดยเจ้าหน้าที่สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติดจะมีการเก็บของกลางไว้ประมาณ 2 เดือน เพื่อตรวจแยกสารเสพติด 1 เดือน และจัดทำรายการส่งไปยัง อย. เพื่อเผาทำลายอีก 1 เดือน