โจรไฟฉาย ร้านอาหารดังเจ้าของตำรับข้าวคลุกกะปิขึ้นชื่อย่านวังตะเคียนเมืองแปดริ้ว ถูกโจรมือดีตัดลูกกรงเหล็กเจาะช่องเข้าหลังครัว ก่อนยกเค้าขโมยถังแก๊สจนหมดเกลี้ยงภายในร้านถึง 5 ใบ ทำเจ้าของสุดเซ็งโอดทำลายอาชีพคลายเหงาของคนแก่หลังวัยเกษียณ ที่อยากหาเพื่อนพูดคุยและทำให้คนได้กินของอร่อยจากฝีมือทำเอง เชื่อเป็นโจรมืออาชีพที่ใช้ไฟฉายส่องเข้าหากล้องวงจรปิด จนทำให้มองไม่เห็นภาพใบหน้าของคนร้าย

วันที่ 23 ม.ค.68 เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางประทานพร เจริญวัฒนา อายุ 69 ปี เจ้าของร้านอาหาร “ตุ้มเฮ้าส์” ซึ่งเป็นร้านที่มีชื่อเสียงหรือขึ้นชื่อในเมนูข้าวคลุกกะปิ ข้าวหมูกระทะ และก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นประจำพื้นที่ ภายในซอยวัดแพรกวังตะเคียน ตั้งอยู่เลขที่ 4 ม.5 ต.วังตะเคียน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทราว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ถูกโจรมือดีแอบเข้ามาใช้คีมเหล็กขนาดใหญ่ ตัดเหล็กลูกกรงถักที่ด้านหลังครัว จากนั้นได้ทำการโจรกรรมถึงแก๊สใบใหญ่ไปจำนวน 3 ใบและถังแก๊สใบเล็กจำนวน 2 ใบ ก่อนที่จะลากออกไปทางด้านหลังร้าน

 

โดยถังแก๊สบางถังยังมีแก๊สบรรจุอยู่เต็มถังด้วย แต่โจรก็ขโมยเอาไปจนหมดไม่มีเว้น ทั้งยังนำกระทะที่เคยจัดวางเรียงรายไว้อยู่บนเตาและหัวถัง นำลงมาวางเรียงกันไว้ที่พื้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้นำเหล็กลูกกรงที่ถูกตัดออกเป็นช่องโหว่รูปทรงสี่เหลี่ยมไปวางทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าที่บริเวณหน้าห้องน้ำของร้าน และหลังจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านแล้ว พบว่าโจรได้เข้ามาโจรกรรมถังแก๊สไปเมื่อเวลา 02.09 น. แต่มองไม่เห็นใบหน้าของคนร้าย เนื่องจากคนร้ายได้ใช้ไฟฉายส่องเข้าหาหน้ากล้อง จนแสงจ้าทำให้มองไม่เห็นอะไรเลย

ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ภายในร้านไม่ได้มีอะไรหายไป จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นโจรที่จงใจเข้ามาขโมยแต่เฉพาะถังแก๊สเท่านั้น และทำอย่างมืออาชีพมาก เนื่องจากถังแก๊สนั้นสามารถนำไปขายได้ง่าย

 

โดยเมื่อเช้านี้เวลา 06.30 น. ตนได้เดินทางเข้ามายังที่ร้าน เพื่อจะดูว่ายังขาดอะไรในการเตรียมที่จะเปิดร้านขายในช่วงเวลา 09.00 น.ของวันนี้ จนมาพบว่ากระทะลูกนำมาวางเรียงกันไว้ที่พื้นของร้านอย่างผิดปกติ และยังพบว่าลูกกรงเหล็กได้ถูกตัดออกจนเห็นเป็นรูโหว่ รวมถึงถังแก๊สในบริเวณท้ายครัวได้หายไป 1 ถัง โดยที่ยังมีแก๊สบรรจุอยู่จนเต็มถัง และเมื่อเดินสำรวจต่อไปจึงพบว่า ที่ด้านในร้านยังมีถังแก๊สหายไปอีกจำนวน 4 ถัง

ทำให้ตนเสียความรู้สึก และเซ็งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก เพราะถังแก๊สทั้ง 5 ใบ เมื่อคิดราคารวมกันพร้อมกับแก๊สที่อยู่ในถังแล้ว มีมูลค่ามากถึงกว่า 1 หมื่นบาท ซึ่งเป็นการทำลายอาชีพของคนแก่ ที่อยากจะหาเพื่อนคุยและอยากจะหางานทำให้รู้สึกไม่เหงาหงอย รวมถึงยังอยากให้ผู้คนได้กินของอร่อยด้วย เพราะทำด้วยฝีมือตนเอง แต่พอมาเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ทำให้รู้สึกเหนื่อยและเครียดเข้ามาแทนที่ หากทาง จนท.ตำรวจยังตามจับกุมตัวคนร้ายไม่ได้ เชื่อว่าอีกไม่นานคนร้ายก็น่าจะหวนกลับมาขโมยของอีก จึงทำให้อยากจะปล่อยทิ้งร้านให้คนอื่นเช่าต่อไปเลย นางประทานพร กล่าว

ทั้งยังกล่าวแนะนำโจรที่เข้ามาขโมยถังแก๊สต่อไปอีกว่า ให้เปลี่ยนอาชีพทำกินซะเถอะ อย่ามายุ่งกับอาชีพคนอื่นเลย จะไปขโมยอะไรก็ไม่ดีกับคนอื่นทั้งนั้น แม้จะเป็นขโมยอย่างมืออาชีพแล้วก็ตาม ก็อยากจะขอให้เปลี่ยนอาชีพดีกว่าไหม เพราะทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน โดยเฉพาะคนที่เขาตั้งใจและอยากทำมาหากินเขาก็พากันเดือดร้อน จึงอยากให้ไปทำมาหากินอย่างอื่น เพราะบางบ้านอาจจะถูกขโมยของมากถึง 5-6 ครั้งแล้ว นางประทานพร กล่าวในที่สุด