วันประวัติศาสตร์ “ชัชชาติ” ยัน กทม.พร้อมให้บริการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม 23 ม.ค.นี้ “ไตรศุลี” ย้ำความพร้อมสำนักทะเบียน 878 อำเภอ-50 เขต กทม. พร้อมให้บริการ
เมื่อวันที่ 22 ม.ค.68 ที่ศาลาว่าการ กทม.ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเปิดจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมครั้งแรกของไทยในวันที่ 23 ม.ค.นี้ว่า กทม.ได้จัดเตรียมความพร้อมด้านเจ้าหน้าที่บุคลากรผู้ให้บริการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมในทุกเขต เช่น การใช้คำพูดต่าง ๆ เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และเป็นเรื่องสำคัญ ต้องใส่ใจกับความรู้สึกผู้ที่มีความแตกต่างหลากหลาย
เบื้องต้นทราบว่ามีประมาณ 300 คู่ กทม.ใช้หลักการเดียวกันกับการจดทะเบียนสมรสทั่วไป แต่เรื่องสิทธิต่าง ๆ ต้องปรับให้ทันกับกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าดูแลบุตรต่าง ๆ ต้องดูรายละเอียดต่อไป
"พรุ่งนี้เป็นวันพิเศษ เพราะเป็นครั้งแรกที่เราอนุญาตให้มีการจัดทะเบียนสมรสของคนที่มีความหลากหลายทางเพศ ในระยะยาวก็จะเหมือนคนปกติทั่วไปที่ทำมาในอดีต ทุกคนก็จะเหมือนกัน เท่าเทียมกัน" นายชัชชาติ กล่าว
ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในวันที่ 23 ม.ค.จะนับเป็นวันประวัติศาสตร์สำคัญของการเปลี่ยนแปลงกฎหมายว่าด้วยการสมรส และครอบครัวของประเทศไทย ด้วยเป็นจุดเริ่มที่ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ.2567 หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม จะมีผลใช้บังคับ โดยตั้งแต่กฎหมายได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 24 ก.ย.67 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ได้มีข้อกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมการปกครองที่ดูแลงานงานทะเบียนครอบครัว การให้บริการจดทะเบียนสมรส ให้เตรียมความพร้อมและมีการติดตามการดำเนินการในด้านต่างๆ โดยต่อเนื่อง กระทั่งมีความพร้อมทุกด้าน สำหรับบริการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมของสำนักทะเบียน 878 อำเภอใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ และ 50 เขตในกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ 23 ม.ค.เป็นต้นไป
น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า กรมการปกครองได้รายงานให้นายอนุทินทราบว่าขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมแล้วทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2568 เพื่อรองรับการจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายใหม่ ก็ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา และจะมีผลบังคับ 23 ม.ค.ทางด้านระบบมีการแก้ไขพร้อมทดสอบระบบทะเบียนสมรสและทะเบียนหย่าเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งจัดเตรียมผลิตแบบพิมพ์ใบสำคัญการสมรส (คร.3) และใบสำคัญการหย่า (คร.7) เพื่อรองรับการให้บริการที่เพิ่มขึ้น ส่วนที่สำคัญที่สุดคือบุคลากร กรมการปกครองได้อบรมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทะเบียนให้มีความรู้ทั้งด้านกฎหมาย การปรับกรอบความคิดให้พร้อมบริการประชาชนบนหลักความเสมอภาคและเท่าเทียม คำนึงถึงสิทธิมนุษยชน
น.ส.ไตรศุลีกล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง ยังได้ส่งหนังสือซักซ้อมการปฏิบัติตามกฎหมายสมรสเท่าเทียมไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ให้นายทะเบียนทุกเภอ/เขต ศึกษาระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการจดทะเบียนสมรสให้เป็นไปตามเงื่อนไขของกฎหมาย พร้อมกับให้ทุกเภอชี้แจงเกี่ยวกับกฎหมายใหม่ในที่ประชุมประจำเดือนหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อนำไปสู่การรับรู้ข้อกฎหมายของประชาชนในวงกว้าง นอกจากนี้ยังได้ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับบริการ จดทะเบียนสมรสระหว่างคนไทยกับคนต่างชาติ หรือกับบุคคลผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ของนายทะเป็นในการรับจดทะเบียนสมรสของบุคคลเพศเดียวกันซึ่งเป็นมุสลิม ที่ต้องถือปฏิบัติตามแนวทางของสำนักจุฬาราชมนตรี
“ในวันที่ 23 ม.ค.กระทรวงมหาดไทยโดยกรมการปกครองจะมีกิจกรรม ‘ตีฆ้องชัย ให้ทุกความรัก 878 อำเภอทั่วไทย’ ที่ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ขณะที่อำเภอต่างๆ ทั่วประเทศก็จะมีกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ เพื่อเฉลิมฉลองให้กับทุกความรัก และในโอกาสเริ่มต้นที่สำคัญนี้ ท่านอนุทินได้ขอให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกๆ คนร่วมอำนวยความสะดวกและบริการประชาชนให้เต็มที่ ให้ความสำคัญกับเคารพสิทธิมนุษยชน และให้ภูมิใจที่กระทรวงมหาดไทยได้เป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับนานาชาติ ในฐานะประเทศที่ยอมรับและเคารพสิทธิมนุษยชนสนับสนุนเพศที่หลากหลาย” น.ส.ไตรศุลีกล่าว