“นายกฯ”ใช้เอไอ ขอนทท.เชื่อมั่น

“กมธ.ปกครอง” ถกดันพนันใต้ดินขึ้นบนดิน ชี้เป็นสิ่งท้าทาย“รัฐบาล”ด้าน“มัลลิกา”เอาคืน! จี้สอบกก.จริยธรรม “ประเสริฐพงษ์” ปมพูดเท็จ-ใส่ร้ายกลางสภาฯ ข่มขู่ห้ามยุ่งเลือกตั้ง อบจ.ลพบุรี ด้าน “ภราดร” บอกชง กมธ.กิจการสภาฯ ตรวจสอบแล้ว คาดสัปดาห์หน้าเชิญคนเกี่ยวข้องชี้แจง ส่วน“ปชน.”กังขาเลือกตั้ง อบจ.ส่อไม่โปร่งใส จี้“นายกฯ”ตรวจสอบ “ตร.นนทบุรี”ไม่เป็นกลาง ข่มขู่ คุกคามผู้สมัคร ส.อบจ. “นายกฯ” ใช้ AI สื่อสารชาวจีน ยันรบ.แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขอเชื่อมั่นความปลอดภัย ชวนเที่ยวไทยเทศกาลตรุษจีน 

เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2568 ที่รัฐสภา นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกมธ.การปกครองว่า วันนี้จะมีการพิจารณา 2 ประเด็น คือ กรณีการแก้ไขกฎกระทรวงที่ออกตามความพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การพนัน พ.ศ.2478 เกี่ยวกับกรณีการพนันออนไลน์ และ ศึกษาแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยเชิญตัวแทนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ปลัดกระทรวงการคลัง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เข้าชี้แจง ภายหลังจาก คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติ เกี่ยวกับการพนันออนไลน์โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ไปหารือกฤษฎีกาในการหากฎหมายรองเพื่อรองรับ จึงต้องเรียกหน่วยงานที่เกี่ยว เข้ามาสอบถามถึงความพร้อมในการปรับปรุงกฎหมายรอง ในการออกกฎกระทรวงว่าจะทำ รวมถึงมาตรการในการควบคุมจากทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
นายกรวีร์ กล่าวว่า เรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ถือเป็นอีกหนึ่งแนวนโยบายคลังรัฐบาล ซึ่งผ่านมติรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งก็จะติดตามว่าแนวทางในการเสนอกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเขียนออกมาในรูปแบบใดต่างจากที่รอบแรกมีการเสนอเข้ามาและมี การตอบรับในหลายภาคส่วน ทั้งการเมืองและประชาสังคม เพื่อติดตามว่าจะมีการปรับปรุงแก้ไขร่างกฎหมายอย่างไร รวมไปถึงมาตรการต่าง ๆที่จะออกมารองรับตัวกฎหมายดังกล่าว

“การจะนำสิ่งผิดกฎหมายขึ้นมาอยู่บนดิน คงไม่สามารถที่จะพุ่งไปที่ประเด็นหารายได้เข้าประเทศอย่างเดียวได้ แต่ต้องมาพร้อมกับมาตรการในการป้องกันคนในประเทศ โดยเฉพาะเยาวชนเพื่อไม่ให้มอมเมา ซึ่งจะมีการสอบถามว่าจะมีมาตรการป้องกันและควบคุมอย่างไร เพื่อทำให้สิ่งที่ผิดกฎหมายให้การบังคับใช้กฎหมายให้มีการจับกลุ่มกวาดล้างให้ถูกต้องตามกฏหมายต่อไป”

นายกรวีร์ กล่าวต่อว่า ส่วนการพนันออนไลน์ทางกรรมาธิการ มองว่าเป็นเรื่องใหม่ แม้ว่าจะเกิดอยู่ไหนประเทศมานานแล้วแต่ยังไม่มีกฎหมายมาครอบคลุม จึงค่อนข้างมีความกังวล ที่อยากจะเห็นภาพการควบคุมการบังคับใช้กฎหมายกับสิ่งที่ผิดกฎหมายที่เราเห็นอยู่แต่ยังไม่มีกฎหมายที่ทันสมัยมากเพียงพอ เพราะฉะนั้นการจะออกกฏหมายต้องมองไปที่การควบคุมในแง่ของการสร้างความสงบและไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นมาในสังคม

“สิ่งที่ท้าทายมากของรัฐบาลวันนี้ในการตัดสินใจนำสิ่งใต้ดินขึ้นมาบนดิน ต้องตอบคำถามกับสังคมให้ได้ว่าเมื่อเอาขึ้นมาแล้ว สิ่งที่อยู่ใต้ดินจะหมดไปจริง เพราะไม่อยากเห็นว่าวันนี้เรามีหวยบนดินแต่ก็มีหวยใต้ดินอยู่ สิ่งที่อยากจะเห็นคือเมื่อนำสิ่งที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาบนดินเพื่อหารายได้เข้ารัฐ แต่ก็ต้องมั่นใจว่าสิ่งที่อยู่ใต้ดินจะได้รับการปราบปราบและป้องกันรวมถึงต้องมีมาตรการเข้มข้นมากพอเพื่อควบคุมไม่ให้คนในสังคมเด็กเยาวชนลุ่มหลง มอมเมาในเรื่องของการพนันจนอนาคตของประเทศเสียหายและเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา”

ขณะเดียวกัน ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาฯ ที่มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในการประชุม ทั้งนี้ก่อนเข้าระเบียบวาระประชุมได้เปิดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้หารือถึงปัญหาความเดือดร้อน ของพี่น้องประชาขนในพื้นที่ โดยน.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช สส.ลพบุรี พรรคภูมิใจไทย ได้ขอให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบจริยธรรมของนายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน พูดเท็จ และใส่ร้ายในห้องประชุมสภา

“นายประเสริฐพงษ์ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ฟังจากใคร อ้างชื่อสส.สาธิต ทวีผล วันนี้ต้องการอะไรมีเจตนาอะไรที่ปั้นน้ำเป็นตัว คำพูดในห้องประชุมและสิ่งที่แถลงกับนักข่าวไม่ใช่คำพูดของดิฉัน หากรับสารมาจากคนอื่น ใช้สมองส่วนไหนคิด หรือไตร่ตรอง เอาคำคพูดของคนอื่น แปลงเอง คิดเอง ต้องส่งกรรมการจริยธรรม เพื่อความเป็นธรรม”

ด้าน นายภราดร ชี้แจงว่านายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ดำริให้ตนไปดำเนินการ ซึ่งตนได้ทำหนังสือให้เลขาธิการสภาฯ ตรวจสอบ และเลขาธิการสภาฯ เห็นว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกรรมาธิการกิจการสภาฯ จึงได้ส่งเรื่องให้นายประเสริฐ บุญเรือง สส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานกมธ.กิจการสภาฯ พิจารณา ทั้งนี้คาดว่าอย่างช้าในสัปดาห์หน้า กมธ.คงเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องชี้แจง

ทั้งนี้น.ส.มัลลิกา กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ต้องส่งกรรมการจริยธรรมด้วย อย่าหยุดแค่นี้ เพราะจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับการพูดเท็จ และการเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาพูดหาเสียงให้ตัวเองหรืออย่างไร หรือดังไม่พอหรืออย่างไร

จากนั้น นายปรีติ เจริญศิลป์ สส.นนทบุรี พรรคประชาชน (ปชน.) หารือถึงประเด็นการเลือกตั้งท้องถิ่น ในวันที่ 1 ก.พ.68 ที่พบประเด็นส่อว่าไม่โปร่งใส จากที่ตนร้องเรียนถึงกรณีที่ตำรวจวางตัวไม่เป็นกลางต่อการเลือกตั้งท้องถิ่น ใน จ.นนทบุรี ซึ่งพบพฤติกรรม ข่มขู่ คุกคาม ทั้งแม่ของผู้สมัคร สจ.พรรคประชาชน และติดต่อไปยังผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่รู้จักกับผู้สมัคร สจ. เพื่อขอรายชื่อผู้ช่วยหาเสียง โดยมีหลักฐานเป็นแชทไลน์ ซึ่งตรวจสอบข้อมูลแล้วพบข้อเท็จจริงเชื่อถือได้ จึงทำหนังสือไปยังผู้บังคับการรตำรวจภูธรนนทุบรี แต่เรื่องเงียบ จึงอยากฝากแจ้งไปยัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่กำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และนั่งหัวโต๊ะปราบผู้มีอิทธิพล เร่งพิจารณาตรวจสอบว่าคำสั่งดังกล่าวมาจากใครและให้รีบแจ้งผลโดยเร็ว

ด้าน น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ พรรคประชาชน ได้หารือด้วยว่าจากการติดตามกระบวนการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น พบว่ากระดานติดประกาศแนะนำผู้สมัครเลือกตั้ง นายก อบจ. และ ส.อบจ. พบปัญหาในหลายหน่วย พบการปิดประกาศรายชื่อผู้สมัครไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน เช่น ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ พบว่าบางหน่วยใช้วิธีติดใบผู้สมัครซ้อนกัน ไม่สามารถเห็นหมายเลขทุกหมายเลขได้ชัดเจน การติดหมายเลขผู้สมัครที่ไม่เรียงตามลำดับ หรือบางหมายเลขหายไป ร้ายที่สุด คือ ไม่ติดเบอร์ผู้สมัครบางคนบนกระดาน ทั้งนี้ได้แจ้งหน่วยงานท้องถิ่น พบการปรับปรุงแก้ไข แต่บางกระดานที่ไม่ถูกตรวจสอบ อาจมีปัญหาที่ทำให้ประชาชนสับสนได้ 

“ทราบว่ามีเรื่องร้องเรียนหลายจังหวัดด้วยว่าหมึกปริ้นท์หมด สีซีดเฉพาะบางหมายเลข หรือไม่ติดหมายเลขผู้สมัครบางคน ขอให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำชับ สั่งการไปยัง กกต.จังหวัดให้สั่งการไปยังผู้อำนวยการเลือกตั้งท้องถิ่นตรวจสอบการติดประกาศหมายเลขผู้สมัครทุกคน และดำเนินการตามหน้าที่อย่างโปร่งใส เป็นธรรม เป็นกลาง และมาตรรฐานเดียวกันทั่วประเทศ” 

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  โพสต์คลิปวิดิโอ ความยาว 1.33 นาที ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว เชิญชวนนักท่องเที่ยวจีนให้เข้ามาเที่ยวประเทศไทย หลังมีกระแสข่าวชาวจีนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกมาไทย โดยใช้ AI แปลงเสียงเป็นภาษาจีนเพื่อสื่อสารโดยตรง มีเนื้อหาว่า " เนื่องในโอกาสวาระพิเศษนี้ ดิฉันอยากสื่อสารกับพี่น้องชาวจีนทุกคน แต่เสียดายที่ดิฉันพูดภาษาจีนไม่ได้และขอใช้เทคโนโลยีAI ทำให้วิดีโอชิ้นนี้แปลงคลิปของดิฉันเป็นภาษาจีน ขอย้ำอีกครั้งว่า คลิปนี้เป็นคลิปAI จัดทำขึ้นเพื่ออยากสื่อสารกับพี่น้องชาวจีน จากกระแสข่าวนักท่องเที่ยวชาวจีนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงมายังประเทศไทย สร้างความวิตกกังวลให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนถึงมาตรฐานความปลอดภัย 
 
นายกฯ กล่าวว่า ดิฉันในฐานะนายกฯไม่นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบ ทำงานหารือเพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ในการเดินทางเข้าประเทศไทย พร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงาน ทำงานบูรณาการร่วมกันเพื่อปราบอาชญากรรม ข้ามชาติอย่างเด็ดขาด เราจะบังคับใช้กฎหมายให้เข้มข้นและจริงจัง เพื่อป้องกันการลักลอบการเดินทาง ข้ามแดนแบบผิดกฎหมาย รวมถึงพัฒนาระบบให้ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบเพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ รัฐบาลไทยให้ความสำคัญความปลอดภัยนักท่องเที่ยวเป็นเรื่องสำคัญ เราจะเร่งสร้างความเข้าใจกับพี่น้องชาวจีน และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว

“ดิฉันยืนยันว่าประเทศไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนทุกท่าน และขอเชิญชวนพี่น้องชาวจีนเดินทางมาประเทศไทย เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนที่จะมาถึงนี้และในโอกาสที่ปีนี้ครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 50 ปี ระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศไทยด้วยกันนะคะ"  นายกฯ กล่าว

ส่วน ที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (เฉลิมชัย ศรีอ่อน)พร้อมนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ น้องชายเนวิน ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อตกลงเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาท กรณีนายศักดิ์สยาม แจ้งความดำเนินคดีกับนายมลคลกิตติ์ ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จำนวน 4 กำ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 เมษายน 64 ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กของนายมลคลกิตติ์ กล่าวหาในทำนองทำให้บุคคลภายนอกเข้าใจ กรณีไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านทองหล่อ แล้วทำให้เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 จนทำให้มีผู้ติดเชื้อกว่า 11,000 คน ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2564 นายมงคลกิตติ์ ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่าน Facebood มีภาพของนายศักดิ์สยาม ขณะเล่นเจ็ตสกี และทานอาหารและร้องเพลงอยู่ในคาราโอเกะ ทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่านายศักดิ์สยาม เป็นตัวแพร่เชื้อโควิด-19 ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 27 เมษายนต์ 2564 ได้มีการโพสต์ ว่านายศักดิ์สยาม มีสัมพันธ์ฉันชู้สาวและหญิงอื่นทได้รับสินจากนายศักดิ์สยาม และครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 นายมงคลกิตติ์ ได้ให้สัมภาษณ์ทีวี PPTV36ว่าให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรนัฐมนตรีในตอนนั้นดำเนินคดีกับนายศักดิ์สยาม ว่าเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดของโควิด-19

โดย นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของตนเองที่โพสต์ไปเพราะไม่มีข้อมูลที่แท้จริง ทำให้กระทบต่อชื่อเสียงของนายศักดิ์สยามล่าสุดศาลจังหวัดบุรีรัมย์ อยากให้มีการพูดคุยกัน ส่วนตนก็พร้อมจะคุยและพร้อมที่จะขอโทษในกรณีที่ตนล่วงเกินไป ซึ่งนายศักดิ์สยาม ก็ให้อภัย จากข้อตกลงที่ศาล ตนจะโพสต์เฟซบุ๊กและไลฟ์สด ผ่านช่องทางที่ตนเคยหมิ่นประมาทเป็นเวลา 15 วันต่อเนื่อง และบันทึกเทปใน Tik Tok เป็นเวลา 15 วันต่อเนื่องเช่นกัน

นายมงคลกิตติ์ กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมันผ่านไปแล้วอะไรที่มันผิดผมยอมรับผิด ส่วนทางท่านศักดิ์สยาม ท่านก็ใจดียอมยกโทษให้ กรณีที่ตนเองยอมขอโทษไม่ได้มีใครแนะนำหรือบังคับ ตนรู้สำนึกมากกว่า หากถามว่าเมื่อมีความเข้าใจกันแล้วกับนายศักดิ์สยาม ซึ่งอยู่พรรคภูมิใจไทย ถ้ามีโอกาสจะมาร่วมกับพรรคหรือไม่นั้น นายมงคลกิตติ์ ตอบว่าตอนนี้ถือว่าคุยกันรู้เรื่องแล้ว ในอนาคตไม่รู้ แต่ตอนนี้ตนขอทำหน้าที่ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ที่ตนเป็นที่ปรึกษาให้ดีที่สุดก่อน

ด้านนายศักดิ์สยา กล่าวว่า การที่ศาลแนะนำให้พูดคุยกันนั้น ตนไม่ได้ขัดข้อง ประกอบกับนายมงคลกิตติ์ มีท่าทีอ่อนลงจึงรับขอโทษเพื่อให้เรื่องทุกอย่างยุติลง ที่สำคัญอยากให้ประชาชนทั่วไปรับรู้ข้อเท็จจริงทั้งหมดถึงแม้ตนจะเสียไปแล้วก็ตาม
ทั้งนี้สิ่งที่ตนอยากจะสื่อคือการตอบโต้ทางการเมืองที่ไม่มีข้อมูลแท้จริง นำไปเสนออยากให้เป็นกรณีศึกษาให้กับนักการเมือง ใครจะกล่าวหาใครจะต้องมีข้อมูลที่ชัดเจน เพราะเสียเวลาด้วยกันทั้งสองฝ่าย   ในการอภิปลายที่ผ่านมาถ้ามีการอภิปรายเนื้องานตนไม่มีปัญหา ไม่อยากเอาเรื่องส่วนตัวมานำเสนอจนกลายเป็นเรื่องในลักษณะนี้ จะทำให้บรรยากาศทางการเมืองไม่ดี