“MAGURO” ผู้นำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นและเกาหลีระดับพรีเมียม ประกาศความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง จากการเปิดตัวร้านหมูทอดสัญชาติญี่ปุ่น "ทงคัตสึ อาโอกิ" (Tonkatsu AOKI) ที่ได้รับการตอบรับเกินความคาดหมาย พร้อมลุยเปิด ทงคัตสึ อาโอกิ เพิ่มเป็น 5 สาขาในครึ่งปีแรกในศูนย์การค้าชั้นนำ ด้วยโปรโมชัน โดนใจเหล่าสาวก MAGURO ตามแบบฉบับ “Give More” ให้มากกว่าที่ขอ ด้าน “CouCou” ร้านอาหาร สไตล์ตะวันตก ที่เปิดตัวปลายเดือนธันวาคมสร้างประสบการณ์คิวจองออนไลน์เต็มเช่นเดียวกัน ตอกย้ำความ สำเร็จกับการมอบประสบการณ์โดนใจ เติมเต็ม Ecosystem ของร้านอาหารในเครือมากุโระ กรุ๊ป  

เมื่อวันที่ 22 ม.ค.68 นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายหลังจากการเปิดตัวแบรนด์ "ทงคัตสึ อาโอกิ" ร้านหมูทอดทงคัตสึพรีเมียม สัญชาติญี่ปุ่นแท้ที่เซ็นทรัล เวิลด์ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมาเป็นสาขาแรก ณ เซ็นทรัล เวิลด์ ชั้น 3 โซน Nippon Avenue ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย มีลูกค้าเข้าคิวรอรับประทานอาหารอย่างล้นหลาม ทุกวัน คิวจองออนไลน์เต็มตลอด ส่งผลให้รายได้เติบโตแข็งแกร่งทะลุเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งนี้รายได้ต่อบิลสูงกว่าที่คาดไว้ถึง 50%

โดยร้าน ทงคัตสึ อาโอกิ เป็นร้านหมูทอดทงคัตสึชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมสูง จนติดอันดับ Tabelog's top 100 ร้านทงคัตสึ ด้วยคะแนนสูงถึง 3.8 คะแนน และได้รับการการันตี ความอร่อยด้วยคะแนน 4 ดาว จาก Tripadvisor โดยมีจุดเด่นในการคัดสรรเนื้อหมูชั้นเลิศ และแป้งทอด สูตรพิเศษ ที่ให้ความบาง เบา และกรอบ พร้อมกรรมวิธีการทอดที่พิถีพิถันตามต้นตำรับญี่ปุ่นแท้ รวมถึงการสร้างประสบการณ์การรับ ประทาน แบบใหม่ด้วยเกลือ 3 ชนิดที่เป็นเอกลักษณ์

“เรามีความภูมิใจในตัวแบรนด์ และรู้สึกอยากขอบคุณลูกค้าคนไทยเป็นอย่างยิ่งกับการต้อนรับ Tonkatsu AOKI อย่างอบอุ่นในช่วงหนึ่งเดือนแรกที่เปิดบริการ เราจึงมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การขยายธุรกิจ โดยการเร่งดำเนินการเพิ่มเป็น 5 สาขา ภายในครึ่งปีแรกของปี 2568 ตามจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ในกลางเมือง กรุงเทพ เพื่อให้สอดรับกับความต้องการที่มีอย่างมหาศาลจากกลุ่มลูกค้าชาวไทย และนอกจากนั้นเรายังมี แผนงานที่จะพัฒนาคุณภาพและการบริการของ Tonkatsu  AOKI ให้ยกระดับขึ้นไปได้อีกในระยะถัดไปอันใกล้ นี้ ซึ่งอยู่ในแผนอยู่แล้วเช่น การเพิ่มเมนูใหม่ และ พัฒนาคุณภาพของวัตถุดิบหลายชนิด เมื่อย้อนกลับไป เมื่อปีที่แล้ว เรามองว่าหมูทอดทงคัตสึเป็น 1 ในเมนูยอดนิยมของคนไทยที่นักท่องเที่ยวต้องไปลิ้มลองทุกครั้งเมื่อไปญี่ปุ่น การที่เราสามารถนำแบรนด์ระดับพรีเมียมอย่างทงคัตสึ อาโอกิ เข้ามาในประเทศไทย จะช่วยยก ระดับตลาดทงคัตสึในประเทศไทย ด้วยรสชาติและคุณภาพระดับต้นตำรับญี่ปุ่นแท้ โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและนิยมรับประทานอาหารคุณภาพสูงและคุ้มค่าคุ้มราคา" นายจักรกฤติกล่าว

ด้านนายธีรภพ กรานเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยกระแสตอบรับที่ดีเกินคาดของร้านหมูทอดทงคัตสึ อาโอกิ ร้านดังจาก ประเทศญี่ปุ่น บริษัทฯ จึงเตรียมแผนขยายสาขาเพิ่มเป็น 5 สาขาในครึ่งปีแรกของปี 2568 ในศูนย์การค้าชั้นนำ อาทิเช่น One Bangkok, Velaa Sindhorn Village Langsuan, Ekkamai Corner, เซ็นทรัล พระราม 2 ด้วยงบลงทุนทั้ง 5 สาขา 60 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมด้วย โปรโมชันต่างๆ ตามแบบฉบับปรัชญา MAGURO “Give More” ให้มากกว่าที่ขอ โดย MAGURO ได้รับสิทธิ์ แต่เพียงผู้เดียวในการเปิดร้านทงคัตสึ อาโอกิ ในประเทศไทย

"หลังจากเปิดร้านทงคัตสึ อาโอกิเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลาม จนสร้างปรากฎการณ์จองคิวจนคิวเต็ม ส่วนลูกค้าที่ Walk-in ก็ต่อคิวยาวหลายชั่วโมง จึงทำให้เราเดินหน้า ขยายสาขาเพิ่มเป็น 5 สาขาอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีแรก เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าร้านทงคัตสึ อาโอกิ โดยจะขยายสาขาในศูนย์การค้าชั้นนำ อีกทั้งยังได้จัดโปรโมชันพิเศษต่างๆ แบบโดนใจสาวก MAGURO” นายธีรภพกล่าว

นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MAGURO ได้กล่าวเสริมว่า ด้านแบรนด์ CouCou (คุคูว์) ร้านอาหารตะวันตกรูปแบบใหม่ สไตล์ All-Day Dining ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้า พรีเมียม และ พรีเมียมแมส ที่โครงการ The Flavorhood เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เปิดตัวในช่วงปลายเดือนธ.ค. 2567 ก็ได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลายเช่นเดียวกัน ด้วยการจองออนไลน์ที่เต็มทุกรอบ นับเป็นการตอกย้ำ ความสำเร็จของบริษัทฯที่สามารถมอบประสบการณ์โดนใจและเจาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการรับประทานอาหาร ในหลากหลายสไตล์เติมเต็ม Ecosystem ของร้านอาหารในเครือมากุโระ กรุ๊ป ได้อย่างดีเยี่ยม

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ในปี 2567 บริษัทมีรายได้รวมที่ 976 ล้านบาท ขยายตัว 27% มากกว่ารายได้รวมใน 9 เดือนแรกของปี 2566 โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากสาขาที่เปิดใหม่  7 สาขา ด้านกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกเติบโต 6.2% เป็น 62 ล้านบาท โดยการเติบโตดังกล่าวบริษัทฯได้รับอานิสงส์จาก แผนการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้แต่เดิมอยู่แล้ว เพื่อพัฒนาศักยภาพร้านอาหารให้ ตอบโจทย์ ความต้องการ ของกลุ่มลูกค้าอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าเดิม หรือกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาใช้บริการ

ทั้งนี้ปัจจุบัน MAGURO Group มีร้านอาหารในเครือ รวมทั้งหมด 38 ร้านจาก 5 แบรนด์ คือ 1.) MAGURO ร้านอาหารญี่ปุ่นและซูชิสไตล์ระดับพรีเมียม 18 ร้าน 2.) SSAMTHING TOGETHER ร้านปิ้งย่าง สไตล์เกาหลีวัตถุดิบพรีเมียม 6 ร้าน 3.) HITORI SHABU ร้านชาบูและสุกียากี้ หม้อเดี่ยวสไตล์คันไซ 10 ร้าน และร้าน HITORI SUKIYAKI ร้านสุกียากี้คันไซแบบดั้งเดิมในรูปแบบ Authentic Japanese Sukiyaki Course ในรูปแบบ Stand Alone ซึ่งเปิดสาขาแรกที่เอกมัย 12 4.) TONKATSU AOKI ร้านหมูทอด ทงคัตสึ ร้านดังจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งเปิดเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.เป็นสาขาแรก ณ เซ็นทรัล เวิลด์ ชั้น 3 และ 5.) CouCou ร้านอาหารรูปแบบ All-Day Dining สไตล์ตะวันตก ณ The Flavorhood ประดิษฐ์มนูธรรม เปิดเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.เป็นสาขาแรก