นครพนม ชัดเจน ตำรวจยืนยัน ผู้กองเข้ม คนซื้อล็อตเตอรี ยอมให้ป้าแหล้ แม่ค้าขายลาบ โดยเสน่หา มีหลักฐานบันทึกประจำวัน ก่อนขึ้นเงินรางวัลคนละใบ เชื่อมากลับลำภายหลัง ส่วนคดีผู้กองเข้ม แจ้งความยักยอกทรัพย์ รับไว้ รอการสอบสวนตามขั้นตอนตามกฎหมาย เสี่ยงเจอแจ้งความเท็จ หากแจ้งความกลับ ด้านเพื่อนบ้านยายแหล้ ยืนยันแบ่งให้จริง ไม่ได้ฝาก ตามคำกล่าวอ้าง

ความคืบหน้าล่าสุด กรณี ร.ต.อ.ฐิติพัฒน์ อายุ 65 ปี หรือ ผู้กองเข้ม ตำรวจตระเวนชายแดน เกษียณราชการ ซื้อล็อตเตอรี จำนวน 2 ใบ ถูกรางวัลที่ 1 เลข 807779  งวดประจำวันที่ 17 มกราคม 2568 โดยก่อนออกผลรางวัล ทางคนซื้อ ได้ไปกินอาหาร ที่ร้านลาบแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนม มี นางบุญล้อม หรือป้าแหล้ อายุ 68 ปี เป็นเจ้าของร้านลาบ และยังสนิทสนมคุ้นเคยกันกับ ผู้กองเข้ม จึงมีการแบ่งปันลอตเตอรี ให้ จำนวน 1 ใบ ระบุว่า แบ่งลุ้นโชคตามประสาคนสนิทกัน และมีการอยอกล้อกันว่า จะแบ่งกันรวย

จนกระทั่งผลรางวัล ปรากฏว่า ถูกรางวัลที่ 1 ต่างพากันดีใจ พร้อมนำเอกสาร ลอตเตอรี คนละ 1 ใบ ไปแจ้งความบันทึกหลักฐาน ลงประจำวัน ที่ สภ.ธาตุพนม โดยยินยอม นำไปขึ้นเงินไม่มีข้อแม้ รวมถึงมีการไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน เป็นหลักฐาน ในช่วงเย็น วันที่ 17 มกราคม 2568 อีกทั้งยังไปคนละเที่ยวกัน ห่างกัน ประมาณ 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีการนำลอตเตอรี ไปขึ้นเงินที่ร้านทองแห่งหนึ่งใน เขตเทศบาลตำบลธาตุพนม แยกกัน

ภายหลัง ร.ต.อ.ฐิติพัฒน์ อายุ 65 ปี หรือ ผู้กองเข้ม ออกมาระบุว่า อยากได้เงินเพิ่มบางส่วนจาก ป้าแหล้ จำนวน 2 ล้านบาท รวมถึงกล่าวอ้างว่า แค่ฝากไว้ ไม่ได้แบ่งให้ พร้อมแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ธาตุพนม กล่าวหา นางบุญล้อม หรือป้าแหล้ อายุ 68 ปี ข้อหายักยอกทรัพย์ โดยทั้ง 2 คน ไม่สามารถติดต่อได้หลังถูกรางวัล ทราบว่าเดินทางไปหาลูกที่ต่างจังหวัด

ด้าน พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ธาตุพนม เปิดเผยว่า ในวันทั้ง 2 คน มาขึ้นรางวัล ทางคนซื้อ นำเอกสารหลักฐานลอตเตอรี มาลงบันทึกประจำวัน เป็นหลักฐาน คนละเที่ยวกัน และยืนยัน ไม่ได้ติดใจ เป็นการแบ่งกันตั้งแต่ต้น ที่ยังไม่รู้ว่าถูกรางวัล เจ้าหน้าที่ได้ลงประจำวันตามกฎหมาย เพื่อนำไปขึ้นรางวัล ต่อมาภายหลัง ทราบว่ามาแจ้งความว่า ป้าแหล้ ยักยอกทรัพย์ ทางตำรวจรับไว้สอบสวน ถือเป็นการแจ้งความตามสิทธิ ผิดถูกว่ากันไปตามพยานหลักฐาน แต่หลักกฎหมาย จากข้อมูลมั่นใจว่า เป็นการให้โดยเสน่หา ส่วนจะมีการฟ้องร้อง สู้คดี หรือใครจะถูกข้อหาแจ้งความ ให้การเท็จ ฟ้องเท็จ เป็นกระบวนตามกฎหมาย โดยทางตำรวจให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

ขณะเดียวกัน จากการสอบถาม ป้าสำลี อายุ 61 ปี คนสนิท ป้าแหล้ เปิดเผยว่า ตนร^hจักป้าแหล้มาหลาย 10 ปี ก่อนเคยมีบ้านใกล้กัน และขายบ้านที่ดิน  ส่วนสามีเสียชีวิต มีลูกสองคน ทำงานมีครอบครัว ป้าแหล้ จึงมาขออาศัย ห้องเชjา ทำร้านลาบขายสร้างรายได้ เป็นห้องเล็กๆ แต่ตนสงสารรู้จักกันไม่เก็บค่าเช่า วันถูกหวย ยังเห็นว่า ผู้กองเข้ม นำล็อตเตอรี มาแบ่งให้ ป้าแหล้ ยืนยันว่าให้ด้วยความเต็มใจไม่ได้ฝากไว้ ตนอยู่ในเหตุกาณณ์ทุกอย่าง อีกทั้งยังมีการพูดจาอยอกล้อกันว่า แบ่งกันรวย หากถูกรางวัล จะนำมาแต่งงาน เอามาเป็นสินสอด เนื่องจากเป็นพ่อม่าย กับแม่ม่าย หลังรู้ว่าถูกรางวัล ยังมีการพูดจากันสนุกสนาม ไม่ได้มีการทวงคืน พอรู้ว่ามีการแจ้งความกันตนไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการให้กันด้วยความเต็มใจ