จากประเด็นที่ยังวุ่นๆยังไม่จบและเป็นประเด็นดราม่าในเวลานี้ สำหรับ "แสตมป์ อภิวัชร์" กับกรณีที่ว่า โดนคุกคาม จนไม่ได้ทำงาน 2 ปี กระทั่งลุกลามไปสู่เรื่องชู้สาว กระทั่งหลายต่อหลายคนพลอยได้รับผลกระทบเรื่องนี้

ล่าสุด เช้าวันนี้ (20 ม.ค.68) ทนายเดชา ไลฟ์ผ่านเพจทนายคลายทุกข์ บางช่วงบางตอน พูดถึงกรณีของ "แสตมป์" ว่า ข่าวแสตม์ อภิวัชร์ เป็นข่าวดัง หลังจากเขาโพสต์อะไรต่างๆ ทางฝ่ายผมและฝ่ายคู่กรณีจะแถลงข่าว ความจริงอีกด้าน

สิ่งที่แสตมป์โพสต์ยังมีการใส่ร้ายอยู่ การข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมาย จะดำเนินคดีกับบุคคลที่หมิ่นสถาบัน ไม่ได้เรียกว่า การข่มขู่ เขาเรียกว่า การใช้สิทธิตามปกตินิยม ถ้าไม่ได้หมิ่นจะกลัวอะไร

ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ตามมาตรา 165  บัญญัติไว้ว่า การขู่ว่าจะใช้สิทธิตามปกตินิยม ไม่ถือว่าเป็นการข่มขู่ การใดที่กระทำไปเพราะนับถือยำเกรง ไม่ถือว่าการนั้นได้กระทำเพราะถูกข่มขู่ 

ถามว่าคุณได้หมิ่นสถาบันหรือไม่ ดังนั้น ถ้ามีข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน นายพลทำงานอะไร คุณน่าจะทราบ จะดำเนินคดีกับคุณมันผิดตรงไหน? ถ้าเขาพูดจริง ก็ไม่ถือว่าเป็นการข่มขู่ ดังนั้น คุณจะกลัวอะไรถ้าไม่ได้หมิ่นสถาบัน แต่ถ้าคุณหมิ่นสถาบันคุณก็ไม่รอด 

ส่วนที่ระบุว่า ผมถอนฟ้องให้ทั้งหมด เนื่องจากถูกข่มขู่ด้วย ม.112 ซึ่งมีพยานวัตถุเป็นแชตของผมกับ จ. แสดงว่าคุณยอมรับว่ามีพยานวัตถุเป็นแชตของคุณเองกับ จ. ที่มีการพูดพาดพิงสถาบันใช่หรือไม่ ถามว่า แล้วคุณจะรอดหรือ? แสดงว่าคุณกลัวเลยยอมถอนฟ้อง

อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้คุณมีส่วนร่วมหรือไม่ ที่ทำให้ จ. ถูกฟ้อง จนต้องจ่าย 1 ล้านบาท คุณมีส่วนร่วมที่จะรับผิดชอบด้วยหรือไม่? แล้วคุณมีส่วนร่วมชดใช้ทดแทนให้กับภรรยาคุณหรือไม่เพราะการที่นอกใจภรรยา และการที่ทำให้ผู้หญิงอีกคนถูกฟ้องเป็นธรรมกับเขาหรือไม่?

มีการขอโทษครอบครัวผู้หญิงหรือไม่? แสดงความรับผิดชอบอะไรไหม ทำไปทำมาคุณเป็นผู้ชายที่มีโลกสองใบหรือเปล่า ผมไม่รู้ คุณไม่ต้องรับผิดชอบเหรอ เพราะคุณไปยุ่งกับเขา และได้แสดงความรับผิดชอบต่อผู้หญิงทั้ง 2 ครอบครัวหรือไม่?

ผมไม่รู็ว่าคุณจะใช้ชีวิตอย่างไร แต่มาตรา 112 น่าสนใจว่า คุณได้มีการพาดพิงสถาบัน จนหวาดกลัวจนต้องยอมถอนฟ้อง แสดงความเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า อันนี้ผมไม่รู้ แต่ว่าถ้ามีกการทำความผิดจริงมีพยานหลักฐาน ถ้าถามผมนะ ผมว่าไม่น่ารอด ถึงแม้ว่าครอบครัวท่านนายพลไม่เอาเรื่อง แต่ผมว่ายังนักร้องเต็มไปหมดรออยู่

เดี๋ยวลูกความผมจะมา จะหารือว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เป็นบทเรียนครั้งสำคัญว่า เป็นบุคคลสาธารณะ ต้องมีความซื่อสัตย์ต่อครอบครัว มีความซื่อสัตย์ต่อแฟนเพลงทุกการกระทำมีผลตามมา ขอโทษแล้วจบหรือไม่ ผมไม่รู้ ดังนั้น หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน