จากกรณีนักร้องดัง "ติ๊ก ชิโร่" ขับรถตู้ชน "จักรยานยนต์" ทำให้ น.ส.เทียนพร ศิวพรพิทักษ์ อายุ 28 ปี เสียชีวิต และ นายจักรภัทร หรือ จูเนียร์ ศิวพรพิทักษ์ อายุ 21 ปี ตกสะพานสูง 10 เมตร ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณกลางสะพานข้ามถนนเทพรักษ์ ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา และวันที่ 18 ม.ค.68 น้องจูเนียร์ ได้เสียชีวิตลง หลังนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล มาประมาณ 70 วัน ก่อนจะออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 67 ไปอยู่ศูนย์พักฟื้น เบื้องต้นแพทย์แจ้งว่าสาเหตุเสียชีวิตเกิดจากติดเชื้อที่ปอด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (20 ม.ค.68) ทนายเดชา ไลฟ์ผ่านเพจทนายคลายทุกข์ บางช่วงบางตอน พูดถึงกรณีของ "ติ๊ก ชีโร่" ว่า ผมเองก็เป็นเพื่อนกับติ๊ก ชีโร่ ขอแสดงความเสียใจกับเเหยื่อที่ถูกติ๊ก ชีโร่ ชน กรณีเมาแล้วขับหรือเปล่าก็ว่ากันไป ปรากฏว่า มีผู้เสียหายเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน เป็น 2 คน ทางญาติผู้เสียหายบอกว่า ติ๊ก ชีโร่ ยังไม่ได้เยียวยาเลย
ผมมีโอกาสได้คุยกับ ติ๊ก ชีโร่ ซึ่งเขาก็บอกว่า เขาพยายามจะเจรจา ผมไม่รู้ว่าติ๊ก ชีโร่ มีเงินหรือเปล่า เพราะเขาไม่ได้เป็นศิลปินที่มีรายได้มาก รู้สึกว่า ติ๊ก ชีโร่ พยายามจะเอาที่ดินที่โคราชไปเยียวยาค่าเสียหาย ปรากฏว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (19 ม.ค.68) ติ๊ก ชีโร่ ได้ติดต่อมาว่า จะมีการแถลงข่าวเรื่องการเยียวยา ชดใช้ค่าเสียหายให้คนตาย แต่ไม่รู้ว่าจะไปแถลงข่าวกันเอง หรือว่าจะให้ช่วยยังไง
เสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต และในขณะเดียวกันก็เป็นอุทธาหรณ์คดีติ๊ก ชีโร่ เป็นศิลปินชื่อดัง เวลากินเหล้าก็อย่าไปขับรถ ขออนุญาตเตือนภัย ทางฝ่ายผู้เสียหายบอกว่า ติ๊ก ชีโร่ นอกจากจะไม่รับผิด ไม่เยียวยา ผิดคำพูดแล้ว และยังไปยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมทำนองว่า คนตายที่ขับมอเตอร์ไซค์ต่างคนต่างประมาทตามข่าว ข้อเท็จจริงอย่างไรเดี๋ยวจะคุยกับ ติ๊ก ชีโร่ ถ้าผมเข้าไปเกี่ยวข้องเต็มตัว ก็จะมาแถลงข่าวและชี้แจ้งกับพี่น้องประชาชนเกี่ยวกับศิลปินคนนี้ แต่เมื่อไปทำคนตายไม่ว่าจะเจตนาหรือประมาท หรือเหตุสุดวิสัย โดยสามัญสำนึกก็ต้องคิดหาทางออก ดูแลเขา อันนี้หลักมนุษยธรรม