เมื่อวันที่ 19 ม.ค.68  กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผกก.2 บก.ปอศ. และ พ.ต.ท.วาทิต จิตรจันทึก รอง ผกก.2 บก.ปอศ. ​เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น นำโดย พ.ต.ท.หญิง วณิชยา ไชยปรุง สว.กก.2 บก.ปอศ., ร.ต.อ.ชนิสรา หนองหารพิทักษ์ รอง สว. กก.2 บก.ปอศ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม  นายทัดชัยฯ อายุ 32 ปี ที่ แสดงตนว่าเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว  มีความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร”  อันเป็นความผิดตามาตรา 246พรบ.ศุลกากรฯ   ร่วมกันตรวจค้น  โกดังแห่งหนึ่ง ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตามหมายค้น ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 35/2568 พบของกลาง สินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศ ประเภท ยากันยุง ยี่ห้อ laojan และยี่ห้ออื่นๆที่นำเข้าจากต่างประเทศ ประมาณ 380 ลัง 

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้นได้ทำการสืบสวนทราบว่า โกดังดังกล่าว มีการนำเข้าสินค้าที่น่าเชื่อว่าลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ โดยผิดกฎหมาย มาจำหน่ายให้กับประชาชน จึงได้ทำการขอหมายค้น หมายค้น ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 35/2568 เพื่อเข้าตรวจค้นและตรวจสินค้าโดยละเอียด เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจชุดตรวจค้นเข้าตรวจค้น นายทัดชัย ฯ เป็นผู้นำตรวจค้น

ผลการตรวจค้นพบสินค้าลักลอบนำเข้าหนีภาษีจากต่างประเทศจริง ยากันยุง ยี่ห้อ laojan และยี่ห้ออื่นๆ ประมาณ 380 ลัง ชิ้นซึ่งเมื่อปี  2566 ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)  ได้ออกมาประกาศเตือนประชาชนให้ซื้อยากันยุงที่มีฉลากไทยและมีเลขผลิตภัณฑ์ เนื่องจากพบว่ายากันยุงที่นำเข้าจากต่างประเทศหลายยี่ห้อ มีสารกลุ่มไพรีทรอยด์ (pyerethriods ) เมเพอร์ฟลูริน (Meperfluthrin) และไดมีฟลูทริน (Dimefluthrin) ซึ่งมีพิษต่อคนและสัตว์ หากสูดดมในปริมาณมากอาจทำให้รู้สึกมึนงง ปวดศรีษะ อาเจียน กล้ามเนื้อกระตุก อ่อนเพลีย ชัก และหมดสติได้

ดังนั้นสินค้าดังกล่าวต้องขออนุญาตนำเข้า ผลิต และจำหน่าย เพื่อประเมินความปลอดภัยและประสิทธิภาพ และเมื่อชุดปฏิบัติการได้ตรวจสอบ ยังพบว่าผู้นำตรวจค้นไม่สามารถหาแสดงเอกสารการนำเข้าและการชำระภาษีศุลกากรมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำบันทึกตรวจค้นและยึดสินค้าดังกล่าวไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งแก่ผู้ต้องหาว่าการกระทำดังกล่าว มีความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร” อันเป็นความผิดตามมาตรา 246 พรบ.ศุลกากรฯ  ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาไม่สามารถนำเอกสารการเสียภาษีอากรมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้