3 ผู้สมัครรับเลือกตั้ง“นายกอบจ.ตราด”ปรับการหาเสียงโค้งสุดท้าย“เดินพบตามบ้าน,รถแห่เข้าหมู่บ้าน,เสริมปราศรัยบนรถแห่ถี่ขึ้น,ศิริกัญญามาช่วยชลธี

บรรยากาศหาเสียงเลือกตั้งนายกอบจ.ตราด ของ 3 ผู้สมัครหลักของจังหวัดตราดจากจำนวน 5 คนนั้น ปรากฏว่า วันนี้(18 มกราคม 2568) ตั้งแต่เวลา 09.00-10.00 น.นายวิเชียร ทรัพย์เจริญ ผู้สมัครจากกลุ่มลูกเมืองตราดพร้อมผู้สมัครสมาชิกสภาอบจ.ตราดหลายคน เดินทางด้วยเท้าไปหาเสียงในเขตเทศบาลเมืองตราด ที่ชุมชนโภคไพร และชุมชนบ้านท่าเรือจ้างมีนายทินวัฒน์ เจียมอุย อดีตรองนายกอบจ.ตราด นายจีรวัฒน์ แสงจันทร์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งส.อบจ.ตราดเขต 1 ร่วม แทนการเดินทางไปปราศรัยตามตลาดนัดเหมือนทุกวันที่ผ่านมา ซึ่งช่วงนี้เหลือระยะเวลาอีกเพียง 14 วัน ถีงจะถึงวันเลือกตั้งนายกอบจ.ตราดและสมาชิกสภาอบจ.ตราด ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากชาวชุมชนอย่างดี โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่เมื่อเห็นนายวิเชียร ทรัพย์เจริญ มาหาเสียงก็เข้ามาหาและสวมกอดอย่างใกล้ชิด

ส่วนนายเจริญ ชลาลัย ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกอบจ.ตราดกลุ่มตราดต้องเจริญ 
และทีมงานขึ้นรถแห่ตะเวนไปยังหมู่บ้านหลายแห่งในเขตเลือกตั้งเทศบาลเมืองตราด ตอกย้ำให้เลือกหมายเลขของตัวเอง โดยระบุว่า ตัวเองเป็นเสมือนพี่ น้อง และเพื่อน โดยไม่มีระบบเจ้าขุน มูลนาย ที่ไม่ได้ทำตัวเป็นเจ้านาย และเมื่อได้รับเลือกตั้งแล้วพร้อมจะทำงานได้ทันที 

ด้านนายชลธี นุ่มหนู ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกอบจ.ตราด วันนี้มึ้นรถแห่ออกไปหาเสียงพร้อมนางศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน ตะเวนไปตามถนนสายหลักในเขตเทศบาลเมืองตราด และชุมชนจังหวัดตราด ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียงแค่ 14 วัน ก็จะถึงวันเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด  และระบัว่า จะยังคงออกไปพบกับประชาชนเพื่อขอความไว้วางใจในการลงคะแนนเสียงอย่างไม่ย่อท้อ  และไม่ได้ให้ความใส่ใจกับบทวิเคราะห์ของสื่อมวลชนหรือผู้สันทัดทางการเมืองว่ายังเป็นรองแชมป์เก่า เนื่องจากเห็นว่าไม่มีใครรู้ดีไปกว่าผู้ที่เข้าพื้นที่พบประชาชนและอยู่ในหน้างาน  จากที่ผมไปสัมผัสมาประชาชนตราดส่วนใหญ่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงให้ และต้องการให้จ.ตราดเป็นได้มากกว่านี้ มากกว่าที่จะให้ตราดเป็นเหมือนเดิม  และในการพูดหาเสียงก็จะพูดแต่นโยบายที่อยากทำ เช่น เรื่องน้ำการเกษตรที่เพียงพอและท่อทั่วถึงคุณภาพทุเรียน ตลาดผลไม้ของเกษตรกร การฟื้นฟูทะเลตราด การท่องเที่ยว การเปิดด่านชายแดน ฯลฯ ที่เป็นเรื่องปากท้องและการทำมาหากินของประชาชนเป็นหลัก