เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 18 ม.ค.68 ที่จ.นครพนม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีข่าวว่านายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เซ็นคำสั่งเพิกถอนที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ กลับคืนเป็นที่ธรณีสงฆ์ ก่อนหมดวาระเพียงไม่กี่วัน ทำให้ความสัมพันธ์ของพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยถูกจับตามอง ว่า ตนไม่มองอะไร กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ถ้าสมมติว่ามีการบอกให้เพิกถอนแล้วจะอย่างไรต่อก็ต้องว่าตามกฎหมาย เพิกถอนแล้วใครเป็นเจ้าของที่ จะเป็นวัดหรือไม่ แล้ววัดจะเอาอย่างไร จะชดเชยความเสียหายผู้ซื้อบริสุทธิ์อย่างไร
เมื่อถามว่ามีการมองกันไปอีกว่าพรรคภูมิใจไทยจะถูกเอาคืนเรื่องเขากระโดง นายทักษิณ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย เราจะบอกว่าคนนั้นคือพวกกันคนนี้คือกัน ไม่ได้ สังคมมีกติกาเพื่อให้คนอยู่ร่วมกันโดยไม่ขัดแย้ง ถ้าทุกคนยึดกติกาทุกอย่างก็จบ แต่ถ้ามีคนบอกว่าไม่ยอมปฏิบัติตามกติกาก็จะมีปัญหา และตอนที่ตนได้ไปร่วมตีกอล์ฟกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้
เมื่อถามว่า มองประเด็นที่นายชาดา ลงนามก่อนหมดวาระเพียงไม่กี่วันอย่างไรบ้าง นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่เป็นไร จะกี่วันก็ไม่เป็นไร ถ้ากฎหมายให้อำนาจเขาเซ็น ก็เซ็นได้ ไม่มีปัญหา และในฐานะที่ตนเป็นเจ้าของสนามกอล์ฟอัลไพน์ เอาอย่างไรก็เอา จะได้จบๆเสียที คาราคาซังน่ารำคาญ และหากมีการถอนสิทธิ์จริงๆก็ไม่เป็นไรเพราะหลักการคือถ้าเป็นของกรมที่ดิน ก็ต้องชดเชยความเสียหาย ที่รับโอนอย่างไม่ถูกต้อง หรือหากเป็นของวัดต้องถามว่าวัดจะชดเชยค่าเสียหายหรือให้เช่าต่อ คนเราถ้ารักษากติกาและไม่ยึดติดอะไร อย่าไปยึดติด ทุกอย่างให้เป็นไปตามกติกา สิทธิของผู้เสียหายมีอย่างไรบ้างก็ว่ากันไป ในเมื่อรัฐใช้อำนาจตรงนี้ผู้เสียหายก็มีสิทธิ์ ในการเรียกร้องค่าเสียหาย อย่ามองทุกอย่างเป็นเรื่องใหญ่ การมองเราชอบเอาเรื่องเล็กไปมองเป็นเรื่องใหญ่ ความจริงไม่มีอะไรใหญ่