วันที่ 18 ม.ค.68 เวลา 02.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นบริเวณฐานปฏิบัติการ หน่วยเฉพาะกิจ ตชด.9223 ตั้งอยู่ริมถนนสายปัตตานี-นราธิวาส ใกล้กับสุสานศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวและมัสยิดหรือเซะ ต.ตันหยงลุโละ อ.เมืองปัตตานี หลังได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมนำกำลังไปที่เกิดเหตุไปถึงเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดกั้นบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อนและเพื่อความปลอดภัย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าบังเกอร์บริเวณฐานมีร่องรอยของสะเก็ดระเบิดหลายจุด และยังพบว่าตาข่ายที่กั้นฐานรอบๆฐานแรงระเบิดทำให้เสาล้มทำให้ตาข่ายเสียหายนอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบคราบดินระเบิดชิ้นส่วนระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ มีฝนตกลงโปรยปราย เจ้าหน้าที่ได้อยู่ภายในฐาน บางส่วนกำลังปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยบริเวณโดยรอบของฐาน ปรากฏว่าได้เกิดระเบิดขึ้นจำนวน 2 ครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ต่างหาที่กำบังเพื่อความปลอดภัยพร้อมกับกระจายกำลังโดยรอบเพื่อป้องกันเหตุต่อเนื่อง ก่อนจะแจ้งผู้บังคับบัญชาทราบ
ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งอยู่บริเวณฐานปรากฏว่าพบความเคลื่อนไหวการก่อเหตุของคนร้าย โดยช่วงเวลาประมาณ 19.30 น. ของคืนวันที่ 17 ม.ค.ได้มีคนร้าย 4 คนใช้รถจักรยานยนต์จำนวน 2 คันเป็นพาหนะขับมาจากเส้นทางปัตตานีและได้ขับวนเวียนรอบ ๆ ฐานหนึ่งรอบคาดว่าน่าจะดูลาดลาวและเจ้าหน้าที่ ปรากฏว่าเมื่อสบโอกาสประกอบกับฝนตกด้วย คนร้ายได้จอดรถบริเวณด้านหน้าฐาน คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ทั้งสองคันได้จึงวิ่งลงจากรถ จยย.พร้อมได้นำระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 5 กก. จำนวน 2 ลูกมาวางไว้ จากนั้นจึงวิ่งขึ้นรถ จยย.เร่งเครื่องหลบหนีไป ซึ่งระหว่างนั้นฝนตกเจ้าหน้าที่ได้หลบฝนเข้าอยู่ในฐาน
กระทั่งเวลา 02.10 น.ได้เกิดระเบิดขึ้นทั้ง 2 ลูกในเวลาไล่เลี่ยกัน เสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่โชคดีไม่มีใครจะรับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีการวางแผนโดยการนำระเบิด 2 ลูกมาวางไว้บริเวณใกล้กัน เพื่อหวังให้เกิดระเบิดก่อนหนึ่งลูก และเมื่อเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบคนร้ายก็จะทำการกดระเบิดลูกที่สองหวังที่จะสังหารเจ้าหน้าที่ แต่โชคดีช่วงเวลาดังกล่าวเกิดฝนตก ระเบิดอาจจะลัดวงจรจึงเกิดระเบิดก่อน
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนแกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิดทุกจุดเพื่อตรวจสอบเส้นทางคนร้ายทั้งก่อนและหลังก่อเหตุ รวมไปถึงนำภาพมาขยายเพื่อเปรียบเทียบภาพจากแฟ้มประวัติคดีความมั่นคงว่าตรงกับบุคคลที่เคยก่อเหตุหรือไม่ โดยเฉพาะพยานหลักฐานวัตถุพยานต่างๆในที่เกิดเหตุเนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันที่ลอบวางระเบิด จยย.บอมม์เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา
ซึ่งเหตุระเบิดครั้งนั้นแนวทางการสืบสวนพอจะทราบกลุ่มที่ก่อเหตุแล้วซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่ม ก่อความไม่สงบพยายามสร้างสถานการณ์ ในพื้นที่ อย่างไรก็ตามการเกิดเหตุครั้งนี้ เสียงระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวจำนวน 2ลูกในช่วงกลางดึกที่เงียบสนิท ส่งผลให้ประชาชนแตกตื่น และสะดุ้งตื่น ต่างตกใจเป็นอย่างมาก