ยุน ซอกยอล กลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกของเกาหลีใต้ ที่ถูกจับกุมขณะดำรงตำแหน่ง โดยเขาถูกกล่าวหาในหลายคดี ที่สำคัญคือข้อหากบฏ ที่มีโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต!!
เนื่องจากศาลได้อนุมัติหมายจับ หลังจากที่ ยุน ซอกยอล เพิกเฉยหมายเรียกของเจ้าหน้าที่ถึง 3 ครั้งในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดย ยุน ซอกยอล ตกเป็นข่าวช็อกโลก หลังจากที่เขาได้ประกาศกฎอัยการศึก และส่งทหารไปยึดสมัชชาแห่งชาติ แต่ต้องล้มเหลว ถูกต่อต้านจากทั้งในและนอกสภา
นำไปสู่การลาออกจากตำแหน่งของรัฐมนตรีกลาโหมของเกาหลีใต้ คิม ยงฮยอน ที่เป็นผู้ให้คำแนะนำในการประกาศกฎอัยการศึกต่อประธานาธิบดีและลงเอยด้วยการถูกจับกุมในข้อหากบฏ
แม้จะมีกระแสกดดันให้ ยุน ซอกยอล ออกจากตำแหน่ง แต่เขาก็ปฏิเสธมาตลอดและยืนยันว่าจะสู้ กระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2567 รัฐสภาเกาหลีใต้ มีมติถอดถอน ยุน ซอกยอล ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ จากกรณีการประกาศกฎอัยการศึก ส่งผลให้ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว โดยให้นายกฯ รักษาการแทน
ทว่า ระหว่างกระบวนการที่รอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้การถอดถอนออกจากตำแหน่งเป็นไปอย่างสมบูรณ์นั้น เขามาถูกจับกุมเสียก่อน โดยเป็นการจับกุมครั้งที่ 2 หลังจากปฏิบัติการเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเกิดการเผชิญหน้าระหว่างตำรวจกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทำให้การจับกุมไม่สำเร็จ
“เพื่อป้องกันเหตุร้ายและความรุนแรง ผมจึงตัดสินใจที่จะปรากฎตัวต่อหน้า CIO แม้ผมเชื่อว่าการสืบสวนครั้งนี้ผิดกฎหมายก็ตาม” เป็นถ้อยแถลงของ ยุน ซอกยอล จากคลิปวิดีโอที่บันทึกไว้ที่บ้านพักประธานาธิบดี
ยุน ซอกยอล วัย 64 ปี เป็นอดีตอัยการสูงสุด ผลงานสร้างชื่อคือการสอบสวนคดีของคนใกล้ชิดอดีตประธานาธิบดี พัก กึนฮเย จนทำให้พักต้องพ้นจากตำแหน่ง ขณะที่ช่วงหนึ่งเขาเบนเข็มไปเป็นทนายความ ก่อนจะกลับมาเป็นอัยการอีกครั้ง และลาออก เพื่อลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในนามของพรรคพลังประชาชน (People Power Party) เมื่อปี 2564 และได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 20 ของเกาหลีใต้ในปี 2565
ช่วงเวลากว่า 2 ปีในตำแหน่งประธานาธิบดี กระแสความนิยมของ ยุน ซอกยอล ตกต่ำจากโศกนาฏกรรมวันฮาโลวีนและวิกฤติการแพทย์ในเกาหลีใต้ และตามมาด้วยความพ่ายแพ้ของพรรคพลังประชาชนในเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาปี 2567
กระทั่งวันที่ 3 ธันวาคม ประกาศใช้กฎอัยการศึก เป็นครั้งแรกที่มีการประกาศใช้ตั้งแต่ยุคเผด็จการทหารของชุน ดูฮวาน ในปี 2523 และต้องเผชิญวิบากกรรมในปัจจุบัน