คุยเฟื่องเรื่องต่างประเทศ / โดยดร.วิวัฒน์ เศรษฐช่วย
บทความฉบับนี้ผมขออนุญาตเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับไฟไหม้ป่า ณ นครลอสแอนเจลิส ซึ่งได้เกิดขึ้นหลายๆจุด โดยผมใคร่ขออนุญาตรายงานจากสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งผมพำนักอาศัยอยู่ใกล้เคียงในขณะนี้ แทบไม่น่าเชื่อเลยว่านับตั้งแต่วันอังคารที่ 7 มกราคม 2025 เป็นต้นมา ไฟป่าจะลุกลามเผาไหม้กระจัดกระจาย จนส่งผลกระทบกระเทือนต่อภารกิจและชีวิตประจำวันของชาวแอลเอเป็นอย่างสูง!!!
ขณะนี้แม้ว่าการเกิดอัคคีภัยในสหรัฐฯจะผ่านไปแล้วหนึ่งสัปดาห์ก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าบริเวณที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจะมีอยู่สองจุดใหญ่ๆด้วยกัน นั่นก็คือในแถบ “Palisades” ซึ่งเป็นย่านที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด โดยพระเพลิงเผาผลาญไปแล้วกว่า 23,700 เอเคอร์ บ้านเรือนกว่าหมื่นหลังต้องถูกทำลาย
Palisades ถือเป็นย่านของผู้มีอันจะกินพำนักอาศัยอยู่ และเปลวเพลิงจากจุดนี้ได้แพร่ขยายวงกว้างลามไปยังเมืองมาลิบู โดยนายกเทศมนตรีของเมืองมาลิบูได้ออกมารายงานว่า ทางแถบตะวันออกของเมืองมาลิบูถูกเพลิงเผาพลาญไปแล้วกว่าหนึ่งในสามของพื้นที่ และมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 5 คน
ส่วนสาเหตุของไฟไหม้ป่าจนลามเลียไปสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนของคนอเมริกัน สืบเนื่องมาจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง บวกกับมีลมพายุพัดกระหน่ำรุนแรงถึง 100 ไมล์ต่อชั่วโมง (160 กม./ต่อชั่วโมง)
จุดเสียหายแหล่งที่สองเพลิงได้ลุกลามไปใน “เขตอีตัน” ที่ครอบคลุมพื้นที่ 17,000 เอเคอร์ โดยเปลวไฟลุกลามไปยังเขตเมืองพาสซาดีนา ในเนื้อที่ 1,000 เอเคอร์ และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน โครงสร้างบ้านเรือนถูกทำลายไปกว่า 7,000 แห่ง ณ วันจันทร์ที่ 13 มกราคม 2025นี้ เขตอีตันสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้อยู่ที่ 33%
เมืองพาสซาดีนา คือสถานที่ในอดีตผมเคยพำนักอาศัยอยู่เป็นเวลานานกว่า 20 ปี โดยประธานโบสถ์ในศาสนจักรที่ผมประจำอยู่แจ้งให้ผมทราบว่า ขณะนี้มีสมาชิกของโบสถ์ได้รับผลกระทบจากเพลิงไหม้จนไร้ที่อยู่อาศัยถึง 50 คน
จากข้อมูลล่าสุด ณ วันจันทร์ที่ 13 มกราคม มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 24 คน และเป็นที่คาดการณ์กันว่า จะมีลมกระโชกอย่างรุนแรงพัดเขย่านครลอสแอนเจลิสในช่วงค่ำของวันจันทร์เรื่อยไปจนถึงวันพุธ
และเนื่องจากลมกระโชกจะทวีความรุนแรงเริ่มขึ้นอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 13 มกราคม 2025 กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯได้ออกมาประกาศเตือนว่า อาจจะมีผลทำให้ไฟไหม้ปะทุลุกลามเพิ่มขึ้นอีก
โดยภาพรวมแล้วในขณะนี้มีประชาชนกว่า 180,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่พักอาศัย และนอกจากชาวแคลิฟอร์เนียจะได้รับความกระทบกระเทือนแล้ว ก็ยังมีบรรดาสัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยงที่หนีเตลิดด้วยความตกใจต้องถูกคร่าชีวิตไปด้วย
และมหันตภัยไฟป่าที่เกิดขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนียครั้งนี้ ถือเป็นความเสียหายที่รุนแรงที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ และ ณ วันจันทร์ ก็ยังไม่มีวี่แววเลยว่าไฟป่าจะคลี่คลายแต่อย่างใด
ขณะนี้รัฐบาลสหรัฐฯกำลังระดมสรรพกำลังเข้าไปช่วยกันดับเพลิง โดยมีหน่วยดับเพลิงจากประเทศเม็กซิโกเข้าไปเพิ่มสมทบกำลังช่วยดับไฟป่า และยังมีพนักงานดับเพลิงจาก 8 รัฐของสหรัฐฯส่งกำลังเข้าไปช่วยสมทบอีกด้วย ส่วนน้ำใจของชาวอเมริกันที่ช่วยกันบริจาคทั้งเครื่องนุ่งห่ม อาหาร น้ำดื่ม อาหารสัตว์ อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆอย่างมากมายมหาศาล ที่ดูๆไปแล้วไม่ต่างไปจากน้ำใจของพี่น้องชาวไทยของเราที่สามัคคีร่วมใจกันยามเมื่อประเทศชาติมีภัย!!!
อย่างไรก็ตามจากคำเตือนล่าสุดเมื่อบ่ายวันจันทร์ที่ 13 มกราคม 2025 กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ ได้ออกมาประกาศเตือนว่า “ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันอังคาร เรื่อยไปจนถึงเที่ยงวันพุธ จะมีลมกระโชกรุนแรงระหว่าง 45 ถึง 70 ไมล์ต่อชั่วโมง และจะทำให้เขตบริเวณที่มีไฟป่าในย่าน Palisades และเขตอีตัน ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยกรมอุตุนิยมวิทยาของสหรัฐฯได้เพิ่มระดับความรุนแรงของสถานการณ์ในครั้งนี้เป็นระดับสูงสุด
สำหรับชุมชนไทยโดยภาพรวมแล้ว ชาวไทยที่อาศัยอยู่ในนครลอสแอนเจลิสและเมืองใกล้เคียงกว่าสามแสนคน เท่าที่ผมทราบยังไม่มีใครเสียชีวิต แต่ธุรกิจของพี่น้องชาวไทยบางคนกลับต้องหยุดชะงักลง เนื่องจากไฟป่า และผมยังรู้สึกเสียใจกับ “คุณปุ๋ย” “คุณภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก” ศิษย์เก่าจาก “มหาวิทยาลัยเปบเปอร์ไดน์” สถาบันเดียวกัน ที่เธอต้องสูญเสียบ้าน ที่เมืองมาลิบู
แต่อย่างไรก็ตามผมซาบซึ้งใจและต้องขอกล่าวขอบพระคุณที่ “สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส” ได้เปิดสายฉุกเฉิน และยังอนุเคราะห์ช่วยส่งคำเตือน และช่วยอัพเดตสถานการ์ณมาทางไลน์โซเชียล เพื่อคอยแจ้งข่าว คอยตักเตือน และเหนือสิ่งอื่นใดคอยให้ความช่วยเหลือต่อพี่น้องชุมชนชาวไทยในนครลอสแองเจลิส
กล่าวโดยสรุปทั้งนี้และทั้งนั้นภัยพิบัติที่กำลังเกิดขึ้นมีผลทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องได้รับความเดือดร้อนกลายเป็นคนไร้บ้าน ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทำให้ผมและครอบครัวตระหนักดีว่าการที่ต้องประสบพบกับเหตุการณ์ร้ายแรง มันช่างมีความเครียด ที่เมื่อใดก็ตามได้รับสัญญาณแจ้งเตือนดังขึ้นบนโทรศัพท์มือถือ เราก็ต้องคอยลุ้นกันว่า จะมีคำสั่งจากรัฐบาลให้อพยพออกจากบ้านเรือนของเราหรือไม่? อีกทั้งยังจะต้องตระเตรียมข้าวของเครื่องใช้ ยารักษาโรค และเอกสารสำคัญๆที่จะต้องนำติดตัวไปด้วย และจากการคาดการณ์ของภาครัฐแคลิฟอร์เนียที่ประกาศว่า กำลังลมจะอ่อนลงในวันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม 2025 พวกเราทุกๆคนก็ได้แต่ยกมือท่วมหัวภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอจงดลบันดาลให้ทุกๆอย่างรอดปลอดภัยและคลี่คลายไปในทางที่ดีละครับ