วันที่ 17ม.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ณ โรงแรมรามาซิตี้รีสอร์ท อำเภอเมืองสระแก้ว นายพิเชฐ พิมพา  ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสระแก้ว เปิดโครงการสตรอง จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดสระแก้ว กิจกรรมการพัฒนาศักยภาพสมาชิกชมรมสตรองจิตพอเพียงด้านทุจริต โดยสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับชมรม STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดสระแก้ว ดำเนินกิจกรรมการพัฒนาศักยภาพสมาชิกชมรม STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต จัดขึ้นเพื่อให้นำองค์ความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่ ขยายผล และนำไปประยุกต์ใช้กับการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการจับตามองและแจ้งเบาะแส (Watch & Voice) มายังสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสระแก้วและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเฝ้าระวังความเสี่ยงต่อการทุจริต ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว

 

สำหรับกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย โค้ช กรรมการชมรมฯ สมาชิกชมรมฯ และเครือข่ายภาคประชาชนระดับอำเภอ และ เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสระแก้ว จำนวน 137 คน กิจกรรมในช่วงเช้าเป็นการบรรยายในหัวข้อ การให้ความรู้ เรื่อง แนวคิดโมเดล STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริตข้อมูลองค์ความรู้ระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานของชมรม STRONG -จิตพอเพียงต้านทุจริต การขยายผลการนำโมเดล STRONG -จิตพอเพียงต้านทุจริตไปรับใช้ในการปฏิบัติงานในการจับตามองและแจ้งเบาะแส (watch &voice) และแนวทางการร่วมสร้างเครือข่ายของชมรมระดับอำเภอให้มีความมั่นคงและยั่งยืน มีวิทยากร นายสมภพ ทรัพย์สมบูรณ์ เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 2 และบรรยายบทบาทหน้าที่ และแนวทางในการปฏิบัติของสมาชิกชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดสระแก้ว ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานชมรมฯ ผลการดำเนินการที่ผ่านมาของชมรมฯ แนวทางในการดำเนินงานของชมรมฯ ในปี 2568

ซึ่งการประชุมครั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสระแก้ว มุ่งหวังให้เครือข่ายภาคประชาชนชมรม STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต ได้นำความรู้จากการเข้าร่วมกิจกรรมมาขยายผลต่อยอดสู่เครือข่ายองค์กรระดับตำบล และหยุดยั้งการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐและส่งเสริม ให้เครือข่ายภาคประชาชนสามารถมีบทบาทในการเสนอแนะแนวทางที่เหมาะสมและมีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบโดยเฉพาะในท้องที่ของตน อย่างมีประสิทธิภาพและร่วมกันแจ้งเบาะแส ต่อต้านและไม่ทนต่อการทุจริต

นายพิเชฐ พิมพา ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังสระแก้ว กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ถือเป็นปัญหาสำคัญและก่อให้เกิดความเสียหายที่มีผลกระทบต่อประเทศเพิ่มมากขึ้น ประชาชนต่างให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการคอร์รัปชันในหน่วยงานราชการ การเมืองและธุรกิจ หากมีเพียงภาคส่วนเดียวในการขับเคลื่อนงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันก็คงไม่สัมฤทธิ์ผลเท่าที่ควร สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชันคือการสร้างเครือข่ายในการทำงานกับภาคส่วนต่าง ๆ ในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครือข่ายภาคประชาชนในแต่ละอำเภอ ซึ่งเป็นภาคส่วนที่มีบทบาทสำคัญในการร่วมกัน เฝ้าระวังและต่อต้านการคอร์รัปชันในพื้นที่ของตนเอง และขอบคุณโค้ช กรรมการชมรมฯ สมาชิกชมรมฯ เครือข่าย ภาคประชาชนระดับอำเภอ รวมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ ในฐานะประชาชนบุคคลที่มีหน้าที่ตามรัฐธรรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 10 (10) ไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตและประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ