แม่ค้าขอนแก่น บุกศาลากลางจังหวัดถือมีดจี้ตัวเองเป็นตัวประกัน หลังเข้าร้องเรียนเรื่องไม่ให้มีการขายสินค้าที่ตลาดนัดแต่เรื่องไม่คืบหน้า และยังถูกกลั่นแกล้งหลายครั้ง

เมื่อเวลา 14.00 น.  วันที่  16 ม.ค. 2568  นายยุทธพร พิรุณสาร รอง ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง ช่วยกันพูดเกลี้ยกล่อม หญิงอายุ 55 ปี หลังถือมีดปลายแหลมยาวกว่า 30 เซนติเมตร จี้ตัวเองเป็นตัวประกัน ที่บริเวณชั้น 4 อาคารศาลากลางจังหวัดขอนแก่นหลังเก่า โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงสามารถทำให้หญิงคนดังกล่าวอารมณ์เย็นลง

โดยหลังจากที่มีการเกลี้ยกล่อม หญิงคนดังกล่าวยอมเอามีดเก็บเข้ากระเป๋า ก่อนที่จะเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นในห้องทำงาน จากนั้นได้มีการพูดคุย และทีมกู้ชีพได้เข้ามาปฐมพยาบาลบาดแผล ที่โดนมีดบาดข้อมือแขนซ้าย โดยทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น ได้เข้ามาพูดคุยเพื่อให้ลดความเครียด เพราะยังมีอาการพูดวกวนไปมาตลอดเวลา 

นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า จากการพูดคุยกับหญิงคนดังกล่าว มีการพูดวกวนไปมาโดยได้บอกว่า เป็นแม่ค้าภายในตลาดเขตเทศบาลสีชมพู และบอกว่าได้รับการปฎิบัติไม่เป็นธรรมกับนักการเมืองท้องถิ่น หลังจากอนุญาตให้มีการเปิดตลาดนัดแห่งใหม่ ใกล้กับตลาดสดที่ขายของประจำ จึงทำให้ลูกค้าลดลง หลังจากนั้นเมื่อมีเรื่องถูกกลั่นแกล้ง จึงได้ไปร้องเรียนกับทางอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กลับไม่ได้รับการแก้ไข  และยังได้รับการกลั่นแกล้งมากกว่าเดิม โดยบอกว่ามีฝ่ายตรงข้ามมาวางยาสัตว์เลี้ยงที่บ้านรวมทั้งตัวสามีก็ถูกวางยา จนทำให้เจ็บไข้ไม่สบายเช่นกัน

"ทีมแพทย์ รพ.ขอนแก่น ได้ตรวจร่างกายก็ไม่พบบาดแผลแต่อย่างใดๆ แต่พบถุงเลือดสัตว์ที่พกติดไว้บริเวณเสื้อชั้นใน และคาดว่าจะบีบเลือดให้ออกจากถุง จนทำให้เลือดเปื้อนเสื้อผ้า จากนั้นทางแพทย์ได้ให้ยาเพื่อลดความเครียด ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลขอนแก่น เพื่อรักษาอาการต่อไป"

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้มอบหมายให้รอง ผวจ.ขอนแก่น ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เพราะดูจากการกระทำที่เข้ามาถึงศาลากลางจังหวัด น่าจะมีความแค้น จึงได้ตัดสินใจเดินทางเพื่อต้องการให้มีได้รับการช่วยแก้ไขปัญหา โดยจะเร่งให้การตรวจสอบภายในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตามได้พูดคุยกับพี่สาวคนก่อเหตุแล้ว โดยจะให้ทางสามีเดินทางไปรับตัวที่ รพ.ต่อไป