วันที่ 16 ม.ค.2568 เมื่อเวลา 12.25 น. ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรมช.มหาดไทย เซ็นคำสั่งเพิกถอนที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ กลับคืนเป็นที่ธรณีสงฆ์ ก่อนพ้นจากตำแหน่งรมช.มหาดไทยว่า นายชาดาได้เซ็นให้กรมที่ดินปฏิบัติตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด และได้ลงนามก่อนพ้นตำแหน่ง แต่นายชาดาไม่มีอำนาจในการเพิกถอน เพราะเป็นอำนาจของนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะต้องพิจารณาเรื่องข้อกฎหมายที่ไม่ใช่เฉพาะคดีอัลไพน์ รวมถึงคดีที่ดินเขากระโดงด้วย ซึ่งขณะนี้เรื่องของการเพิกถอนอยู่ระหว่างกระบวนการ ซึ่งมาถึงจุดที่เป็นดุลยพินิจของนายชำนาญวิทย์แล้ว และหากไม่ดำเนินการก็จะผิดตามมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และรองปลัดฯก็มีเวลาถึงเดือนก.ย.นี้ ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ เชื่อได้ว่าจะทำทุกอย่างให้เรียบร้อย
“ไม่มีทางออกสักเท่าไหร่ เพราะดุลยพินิจถูกล็อคมาตามแนวทางของคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่จะต้องเพิกถอนกรรมสิทธิ์ ด้วยการออกเอกสารสิทธิ์ของที่ดินอัลไพน์เป็นโมฆะ และที่ดินกลับไปเป็นที่ธรณีสงฆ์” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่าอำนาจการเพิกถอนที่ดิน ดังกล่าวสิ้นสุดที่รองปลัดแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อุทธรณ์อีกคงไม่มีสมมติว่ารองปลัดฯ ให้เพิกถอนที่ดิน ส่วนผู้เสียหายที่ไม่พอใจ ก็ให้ไปร้องต่อศาลเป็นรายบุคคลไป
เมื่อถามว่าหากมีการเพิกถอนที่ดินอัลไพน์ กรมที่ดิน จะต้องเยียวยาผู้ถือครองโดยสุจริตหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตรงนั้นก็ว่ากันไป กรมที่ดินก็หนักหน่อย เพราะเป็นผู้เก็บค่าธรรมเนียม และออกโฉนดให้แก่ประชาชน ซึ่งหากเกิดอะไรขึ้น กรมที่ดินจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนใครจะถูกจะผิดก็ต้องไปไล่เบี้ยกัน ซึ่งตนเคยให้นโยบายกรมที่ดินไปแล้ว
เมื่อถามย้ำว่าหากเพิกถอนที่ดินผู้ถือครองโดยสุจริตจะต้องชดใช้ตามการประเมินมูลค่าที่ดินหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวยอมรับว่า ใช่
เมื่อถามว่ากรมที่ดินมีการประเมินราคาที่ดินอัลไพน์หรือไม่ หากต้องชดใช้ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนก็ประเมินได้ ตอนนี้ไร่เป็นล้านอยู่แล้ว ซึ่งแตกต่างจากในอดีตที่เป็นพื้นที่ชนบท ที่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่เมืองทั้งหมดแล้ว ก็ต้องไปฟ้องกัน
เมื่อถามว่า ประเด็นอัลไพน์ ถือเป็นการแลกกันคนละหมัด ระหว่างพรรค ภูมิใจไทย กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีการดำเนินการเรื่องที่ดินเขากระโดง นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีเลยเรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ถ้าตนไปสั่งรองปลัดฯเมื่อไหร่ แล้วรองปลัดฯไปพูดต่อตนตายเลย เพราะมันเป็นอำนาจโดยชอบธรรมของรองปลัดฯ และอำนาจของรัฐมนตรีก็ไม่มีสิทธิ์ไปยับยั้ง จะบอกว่าที่แล้วมาก็แล้วไปไม่ได้ ซึ่งเรื่องเขากระโดงกับเรื่องอัลไพน์ หน่วยงานที่รับผิดชอบก็คล้ายๆกัน มีการออกเอกสารสิทธิ์ แต่วันดีคืนดี ก็มีคำสั่งศาลมาเพิกถอน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการต่อ
เมื่อถามย้ำว่าเรื่องดังกล่าวไม่เชื่อม โยงกับ การเมืองใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยืนยันว่า ไม่ใช่เลย การไปโยงกับการเมืองทำให้คนมีอารมณ์ร่วมเปล่าๆ ถึงตนไม่ใช่รมว.มหาดไทย เรื่องนี้รองปลัดฯ ก็ต้องดำเนินการ
เมื่อถามว่าการพิจารณาเพิกถอนที่ดินอัลไพน์จะต้องชี้แจงต่อนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เคยชี้แจงแล้ว เพราะเป็นเอกสารสิทธิ์ที่หน่วยงานรัฐออกให้ มีตราครุฑอยู่บนหัวโฉนด ถ้าจะไปยกเลิกก็เปรียบ เหมือนเวลา เราเซ็นเช็คไปให้คน หากมีปัญหาขึ้นมา ผู้ที่เซ็นเช็คก็ต้องชดใช้ใช่หรือไม่ เรื่องนี้ก็เหมือนกัน ซึ่งที่ตนกล้าพูด เพราะอธิบดีกรมที่ดินคนปัจจุบัน ไม่เกี่ยวข้อง เพราะเรื่องเกิดขึ้นสมัยเขาอยู่ซี3 - ซี4 เอง ซึ่งใครทำเรื่องนี้ ก็ต้องรับผิดชอบ
เมื่อถามว่าหากไปเพิกถอนที่ดินของครอบครัวนายกรัฐมนตรี กรมที่ดินมีเงินเพียงพอเยียวยาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "ก็เงินรัฐบาลไทย เขากระโดงก็เหมือนกันนะ มาเย้วๆ กัน ต้องเพิกถอน ต้องยกเลิก และถ้าเขามีโฉนดถูกต้องก็ต้องเอาเงินไปเยียวยาเขา ในมูลค่าปัจจุบัน ซึ่งผมไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้น ซึ่งเดี๋ยวเราต้องขอดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปพวกเราไม่เกี่ยว แต่จะทำให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะอย่าลืมว่า หากประชาชนทั่วไป ไม่สามารถเชื่อถือเอกสาร ของรัฐได้แล้ว ประเทศก็จะอยู่ไม่ได้ ดังนั้นคนที่ออกเอกสารสิทธิ์อะไรไป ก็ต้องรับผิดชอบ"