เมื่อเวลา 11.25 น. วันที่ 16 ม.ค.68 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงท่าอากาศยานนราธิวาส ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส  โดยนายกฯ สวมเสื้อสูทสีชมพูบานเย็น หลายผ้านรารวมใจ เป็นผ้าลายอัตลักษณ์ประจำจังหวัดนราธิวาส ผลิตจากกลุ่มนาราบาติก อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ที่ผสมผสานลายผ้า 5 ลายมาไว้บนผืนเดียวกัน ประกอบด้วย 1.ลายตะเกียงโบราณ ที่สะท้อนถึง ความสว่างไสว 2.ลายดอกบานบุรี  ดอกไม้ประจำจังหวัดนราธิวาส ที่มีความงดงาม 3.ลายแกะสลักหัวเรือ ที่สื่อถึง วิถีชีวิต การประกอบอาชีพ และความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติของจังหวัดนราธิวาส 4.ลายมือประสาน สื่อถึง ความรักสามัคคี และ 5.ลายสิริวชิราภรณ์ ลายผ้าพระราชทาน ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาทรงมอบลายผ้าพระราชทานให้เป็นของขวัญแก่ผู้ประกอบการผ้าและงานหัตถกรรม จ.นราธิวาส เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้มีความมั่นคง ครอบครัวอบอุ่น ขณะที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ที่ร่วมคณะเดินทางมาด้วย สวมเสื้อสีฟ้าเขียวลายนรารวมใจ

 

ต่อมาเวลา 12.00 น.นายกฯ เดินทางถึงลานพิกุล มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส  เพื่อพบปะนักศึกษาและผู้ปกครองที่เข้าร่วมมหกรรมไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้ “มีอยู่ มีกิน มีใช้ ” โดยมีนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (เลขาฯ ศอ.บต.) รอให้การต้อนรับ

 

จากนั้นนายกฯ เยี่ยมชมบูธ ของสำนักงานบังคับคดีจังหวัดนราธิวาส บูธเรือนจำจังหวัดนราธิวาส โดยนายกฯสอบถามถึงผลิตภัณฑ์ฝีมือแรงงานของผู้ต้องขัง ก่อนเยี่ยมชมบูธของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดใช้แดนใต้ (ศอ.บต.) พร้อมชิมชาชัก ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในจังหวัดชายแดนใต้ ของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนราธิวาส  โดยนายกฯบอกว่า ”อร่อยดี กินแล้วมีความเป็นไทย สมูธๆดี“  

 

ต่อมานายกฯ เดินทักทายประชาชนจำนวนมากที่ขอถ่ายภาพร่วมกับนายกฯ  ซึ่งนายกฯได้หยิบมือถือของประชาชนมาถ่ายภาพเซลฟี่ด้วย ขณะที่ประชาชนบางคนตะโกนบอกว่า “นายกฯสวย” โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก 

 

ต่อมานายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้รู้สึกดีใจและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเจอกับพี่น้องทุกคนและได้มาที่จ.นราธิวาส ถือว่าเป็นฤกษ์งามยามดีที่ได้มาเจอกับประชาชนด้วยตนเอง และตั้งแต่เดินเข้ามาทุกท่านต้อนรับอย่างอบอุ่นมาก ต้องขอขอบคุณอย่างมากในนามของรัฐบาลขอบคุณทุกภาคส่วน ที่เปิดโอกาสให้กับประชาชนเข้ามาไกล่เกลี่ยเรื่องหนี้ เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาเรื้อรังยาวนานของประเทศไทย การปรับโครงสร้างหนี้การช่วยเหลือประชาชน การซัพพอร์ตต่างๆในเรื่องนี้จะทำให้ต้นทุนของประชาชนลดลง และทำให้มีแรง มีกำลังในการที่จะจ่ายค่าของชีพที่ถูกลง รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้เพิ่มให้กับตัวเองและครอบครัว ดังนั้นสิ่งนี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง

 

นายกฯ กล่าวต่อว่า ขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนในการช่วยผลักดันเรื่องนี้และจะได้เห็นว่าเราพูดกันในทุกเวทีว่าเศรษฐกิจไทยเติบโตช้ากว่าศักยภาพที่เรามี ซึ่งตอนนี้นโยบายของรัฐบาลสนับสนุนช่วยกันในเรื่องของการศึกษา เพราะต้องเน้นการศึกษา ประเทศอื่นๆเขามีการลงทุนในเรื่องของอุตสาหกรรมแห่งอนาคตเยอะแล้ว แต่ของเราเพิ่งจะเริ่มลงทุนกันค่อนข้างเยอะมากขึ้นในช่วงประมาณ 1-2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเราก็ต้องผลักดันต่อไปให้คนของเรามีสกิลเพิ่มมากขึ้นและมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับธุรกิจสิ่งใหม่ๆ การจ้างงานใหม่ๆที่เข้ามา รัฐบาลตรียมโอกาสไว้ให้กับประชาชนเรื่องการศึกษาที่ดีในอนาคตให้กับประชาชน สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญวิชาความรู้ต่างๆเป็นสมบัติที่ติดตัวประชาชนไปตลอด อันนั้นคือสิ่งที่รัฐบาลมองเห็นและอยากสร้างให้เกิดขึ้นในระยายาวอีก 10 ปีหรือ 20 ปีข้างหน้าเราจะมีคนคุณภาพต่อไปเรื่อยๆ 

 

นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องหนี้สินถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนควรจะได้รับการดูแลในเรื่องนี้ต่อจากนี้คือเรื่องของการหารายได้เพิ่มให้กับตนเองและครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่ารัฐบาลจะพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างโอกาสดีๆให้กับประชาชน เพราะปีนี้เป็นปีแห่งโอกาสและรัฐบาลจะพยายามที่จะทำให้พี่น้องประชาชนทุกๆคนได้รับโอกาสในทุกพื้นที่

 

“วันนี้ขอฝากไปยังเลขาฯศอ.บต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งหารือกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องว่าจะทำอย่างไรที่จะให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงการไกล่เกลี่ยหนี้ได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยไม่ต้องมาถึงจังหวัด” นายกฯ กล่าว

 

จากนั้นพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม มอบเรือกอและจำลอง ของที่ระลึกให้กับนายกฯ ด้วย ก่อนนายกฯเดินทักทายประชาชนและนักเรียนนักศึกษา พร้อมถ่ายภาพเซลฟี่รวมกันอย่างเป็นกันเอง

 

ต่อมานายกฯได้เดินมายังโต๊ะไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้ โดยมีลูกหนี้ที่กู้ยืมกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.)โดยหนี้มีมูลค่า 80,000 บาท และเมื่อเข้าโครงการแล้วหนี้ลดเหลือ 50,000 บาทผ่อนเดือนละ  540 บาท ซึ่งนายกฯ สอบถามว่า “ไหวหรือไม่ สู้ๆนะ”