เมื่อเวลา 09.05 น. วันที่ 16 ม.ค. 68 ที่ห้องแกรนด์ ริเวอร์ไซด์ บอลรูม โรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมอาเซียนด้านดิจิทัล ครั้งที่ 5 (The 5th ASEAN Digital Ministers’ Meeting: ADGMIN) นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ว่า นายกฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องอาชญากรรมทางออนไลน์ ก่อนหน้านี้กระทรวงดีอีได้ประสานงานขอความร่วมมือระหว่างประเทศไประดับหนึ่ง และการประชุมครั้งนี้ จะขยายผลและพูดคุยในเรื่องดังกล่าวอีก เนื่องจากมีรัฐมนตรีด้านดิจิทัลหลายประเทศเข้าร่วม และ คู่เจรจาที่เป็นเจ้าหน้าที่อาวุโส ร่วมในวงเจรจาในหลายหัวข้อ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลพื้นฐานด้านดิจิทัล และเทคโนโลยีด้านดิจิทัล ตอบสนองภัยคุกคามทางไซเบอร์ และพูดถึงเรื่อง AI พูดถึงการให้ประชาคมอาเซียนเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างเท่าเทียม รวมถึงการปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์

ผู้สื่อข่าวถามถึง การขอความร่วมมือ ป้องกันอาชญากรรมตามแนวชายแดน นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีการเจรจาในระหว่างคู่เจรจา และทำเอ็มโอ กับหลายประเทศมีพื้นที่ติดชายแดนหรือไม่ติด โดยจะคุยกับทางเมียนมาในวันนี้ หลังจากที่ได้คุยกับ สปป.ลาว ไปแล้ว และพูดคุยกับกัมพูชา เรื่องปัญหาของแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ที่จะมีทำเอ็มโอยูระหว่างกัน 

เมื่อถามกรณีที่ นายกฯ ระบุว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอก จะตั้งคณะกรรมการติดตามเรื่องนี้เป็นพิเศษหรือไม่ เนื่องจากเป็นผู้นำประเทศที่ถูกหลอก นายประเสริฐ กล่าวว่า ที่จริงเรามีศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม และมีศูนย์ปฎิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ AOC 1441 โดยจะยกระดับความเข้มข้นของการปราบปรามมากขึ้น และมีองค์ประกอบที่มีนายกฯ มาเป็นประธาน เนื่องจากปัญหานี้เป็นปัญหาสำคัญทำความเสียหายให้ประเทศ

เมื่อถามกรณีที่ผู้นำรัฐกระเหรี่ยง เมียนมาพูดคุยกับผู้ประกอบการทุนจีนเกี่ยว ที่ดำเนินธุรกิจในจังหวัดเมียวดี ถึงการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม และค้ามนุษย์ ถือสัญญาณที่ดีหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ประเทศเพื่อนบ้านได้รับความเสียหายจากปัญหาเหล่านี้ การพูดคุยจึงเป็นสัญญาณที่ดีในการทำงานร่วมกัน เพราะปัญหานี้เป็นภัยคุกคามของประชาคมอาเซียน และจากที่คุยกับรัฐมนตรีดิจิทัลในอาเซียน ทุกประเทศประสบปัญหาเรื่องนี้ เช่น มิจฉาชีพที่ข้ามฝั่งจากสปป.ลาวที่เข้ามาใช้ไทยเป็นฐาน หลอกคนประเทศเดียวกันขณะที่ไทยก็ข้ามฝั่งไปลาว หรือกัมพูชา เพื่อหลอกคนไทย ดังนั้นทุกประเทศต้องร่วมมือกัน เรื่องนี้ปลัดกระทรวงดีอีได้เจรจา และดำเนินการเรื่องนี้มา1 ปีแล้ว และจะยกระดับเข้มข้นขึ้น