ปูนบำเหน็จยศสองพ่อ- ลูก'ครู ตชด.' พลีชีพที่ศรีสาครมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นรวมกว่า 6.2 ล้าน ด้าน นายกฯอิ๊งค์ ขออย่ามองเหตุไม่สงบชายแดนใต้ แสดงสัญลักษณ์ก่อนลงพื้นที่ ย้ำไม่เน้นเรื่องความรุนแรง แต่ต้องไปแก้ปัญหาทุกเรื่อง
       

เมื่อวันที่ 15 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสนอเลื่อนขั้น ปูนบำเหน็จยศ พล.ต.อ. และ พล.ต.ต.สองพ่อ- ลูกครู ตชด.ที่พลีชีพในอำเภอศรีสาคร  จังหวัดนราธิวาส พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้น รวมกว่า 6.2 ล้านบาท ให้สิทธิบรรจุทายาทฯ 
 

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แจ้งข้อมูลสิทธิประโยชน์เบื้องต้น กรณี 2 ครู ตชด. เสียชีวิตจากการปฎิบัติหน้าที่ ขณะที่ พ.ต.ท.สุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์ ครู (สบ 3) กก.ตชด.44 กับพวกขับรถยนต์กระบะเดินทางออกจากโรงเรียน ตชด. บ้านตืองอ ต.ศรีบรรพต จว.นราธิวาส มุ่งหน้าไปยัง อ.ศรีสาคร จว.นราธิวาส เพื่อไปทำภารกิจ เมื่อมาถึงบริเวณถนนสาย ศรีสาคร-จะแนะ บ้านไอร์กือเนาะ ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จว.นราธิวาส ได้ถูกคนร้ายลอบวางระเบิด เป็นเหตุให้ พ.ต.ท.สุวิทย์ฯ และ ด.ต.โดม ช่วยเทวฤทธิ์ ผบ.หมู่ กก.ตชด.44 เสียชีวิต เหตุเมื่อวันที่ 14 ม.ค.68 เวลาประมาณ 09.50 น.

  โดย สิทธิประโยชน์กรณีข้าราชการตำรวจทั้ง 2 นาย เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ดังนี้ พ.ต.ท.สุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์ ครู (สบ 3) กก.ตชด.44 ครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านตืองอ ได้รับเงินสวัสดิการและเงินช่วยเหลือ โดยประมาณ 3,519,970 บาท เลื่อนเงินเดือนกรณีพิเศษไม่เกิน 7 ขั้น และเลื่อนยศสูงขึ้นเป็น พล.ต.อ. ส่วน  ด.ต.โดม ด.ต.โดม ช่วยเทวฤทธิ์ ผบ.หมู่ กก.ตชด.44 ครูโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ได้รับเงินสวัสดิการและเงินช่วยเหลือ (โดยประมาณ) 2,722,970 บาท  เลื่อนเงินเดือนกรณีพิเศษไม่เกิน 7 ขั้น และเลื่อนยศสูงขึ้นเป็น พล.ต.ต.
     

   ที่เมืองทองธานี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่ผ่านมา ก่อนที่นายกฯ จะลงพื้นที่ในวันที่ 16 ม.ค. จะมีการกำชับการดูแลอย่างไรเหรือไม่ ว่า ใช่ ให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ช่วยดูในเรื่องของเส้นทาง และเป็นไปตามแผนปกติเดิม 
   

     เมื่อถามว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ จะมีการหยิบยกประเด็นความไม่สงบมาคุยกับผู้นำชุมชน หรือผู้นำศาสนาในพื้นที่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราต้องคุยกันก่อน และต้องคุยนอกรอบกันด้วย ซึ่งอะไรที่เป็นการสนับสนุน ก็พร้อมจะสนับสนุนให้ทุกจังหวัดมีความสงบสุข ถ้าอะไรคุยได้ก็ต้องคุย แน่นอนเราไปเพื่อไปแก้ปัญหาในจังหวัดนั้นๆ ฉะนั้น ไม่ว่าจังหวัดไหนจะเจอปัญหาอะไร เราต้องคุยอยู่แล้ว

         เมื่อถามอีกว่า เหตุเกิดขึ้นก่อนที่นายกฯ จะลงพื้นที่ อาจจะมีการมองว่าเป็นการก่อเหตุเชิงสัญลักษณ์ เพื่อจะสื่อถึงรัฐบาล เราจะบูรณาการการทำงานอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ไม่หรอก อย่าคิดอย่างนั้นเลย เราไปด้วยใจที่ต้องการแก้ปัญหาในหลายๆ ด้าน ไม่ใช่แค่เรื่องนั้นอย่างเดียว เราจะไปช่วยเพิ่มรายได้ต่างๆ ด้วย อะไรทำได้เราต้องทำ เราโตช้ากว่าประเทศอื่นไปเยอะ เพราะฉะนั้นอะไรทำได้ต้องทำ ซึ่งทราบอยู่แล้วว่าตนไม่สู้เรื่องความรุนแรง ไม่เน้นเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นเรื่องอื่นอะไรที่สนับสนุนได้ ก็พร้อมเต็มที่