“สุพิศ คิดรอบ” อดีตผู้สมัคร สส.บุรีรัมย์ โผล่สมัครรับเลือกตั้ง นายก ทต.หนองกี่ ในนามกลุ่ม “รักษ์หนองกี่” มั่นใจชนะการเลือกตั้ง อยู่ใกล้ชิดพี่น้องประชาชนมาตลอด
วันที่ 15 ม.ค.68 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานเทศบาลตำบลหนองกี่ ต.หนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งใช้เป็นสถานที่เปิดรับสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ (นายก ทต.หนองกี่) จ.บุรีรัมย์ กรณีพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุอื่นใดนอกจากครบวาระ (ลาออก) เป็นวันที่สาม ได้มีผู้เดินทางมายื่นใบสมัครก่อนเปิดรับสมัครนายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ ในเวลา 08.30 น. เพียงคนเดียว คือ นายสุพิศ คิดรอบ หรือ “ดีเจ เซียงช้าง” อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคก้าวไกล เดินทางมาสมัครนายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ ในนามกลุ่ม “รักษ์หนองกี่” ได้หมายเลข 2 โดยมีผู้นำชุมชน ชาวบ้าน และกองเชียร์มาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งก่อนการสมัคร ก็ได้มีการไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หน้าสำนักงานเทศบาล เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นเอาฤกษ์เอาชัยครั้งนี้ด้วย
โดยมีนายสมิงไพร สุนทะวงษ์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำเทศบาลตำบลหนองกี่ และ กกต.ประจำเทศบาลตำบลหนองกี่ มาติดตามดูความเรียบร้อยในการรับสมัครเลือกตั้ง ซึ่งมีนายชาญยุทธ โนนบุ ปลัดเทศบาลตำบลหนองกี่ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลตำบลหนองกี่ พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาล ปฏิบัติหน้าที่รับสมัคร และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองกี่ มาคอยดูแลความสงบเรียบร้อย โดยการรับสมัครจะเปิดไปจนถึงวันที่ 17 ม.ค.2568 นี้ ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.และจัดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 16 ก.พ.2568
สำหรับ นายสุพิศ คิดรอบ หรือ “ดีเจ เซียงช้าง” อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ ในนามกลุ่ม “รักษ์หนองกี่” เริ่มเล่นการเมืองครั้งแรก จากสนามการเมืองท้องถิ่นด้วยการลงสมัครสมาชิกสภาเทศบาล(สท.)ตำบลหนองกี่ และได้รับการเลือกตั้ง จากนั้นอัพตัวเองขึ้นสู่สนามการเมืองใหญ่ ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) จ.บุรีรัมย์ เขตเลือกตั้งที่ 7 ในนามพรรคก้าวไกล แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งได้คะแนนมาเป็นอันดับที่สาม 18,535 คะแนน ก่อนจะตัดสินใจกลับมาลงสนามการเมืองท้องถิ่นอีกครั้ง ด้วยการลงสมัครนายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ ครั้งนี้ ในนามกลุ่ม “รักษ์หนองกี่” ที่ผู้นำชุมชน ชาวบ้านในตำบลหนองกี่ให้การสนับสนุน
นายสุพิศ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ตนไม่รู้สึกหนักใจ แม้ว่าคู่แข่งจะเป็นอดีตนายกฯ สมัยที่ผ่านมา เพราะผลการเลือกตั้งขึ้นอยู่ที่พี่น้องประชาชนเป็นผู้ตัดสิน โดยส่วนตัวก็มีความมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยทิ้งพื้นที่ อยู่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ประกอบกับการเลือกตั้ง สส.ที่ผ่านมา ตนเองก็ได้คะแนนชนะการเลือกตั้งในเขตเทศบาล ทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้ ไม่มีความหวั่นเกรงใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งพี่น้องประชาชนต่างก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีด้วย