วันที่ 15 ม.ค.68 ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการ กทม.ดินแดง นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่2) ประจำปี 2568 โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายจักกพันธุ์ ผิวงาม นายวิศณุ ทรัพย์สมพล นางสาวทวิดา กมลเวชช นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหาร หัวหน้าหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

 

ในระเบียบวาระที่ 4 นางสาวภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตบางซื่อ ได้เสนอเรื่องหารือเกี่ยวกับการดำเนินการด้านทุจริตเครื่องออกกำลังกายของข้าราชการ กทม. ทั้งในทางวินัยและทางแพ่ง ซึ่งผู้บริหาร กทม.ให้ข้อมูลว่าการสอบสวนได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว เหลือเพียงลงนา มอย่างเป็นทางการ จึงขอให้ฝ่ายบริหาร กทม.เปิดเผยผลลัพธ์ในการสอบสวนเรื่องนี้ให้ประชาชนได้รับทราบ รวมถึงโครงการ open data และการร่วมมือกับ actai.co ที่เคยประกาศไว้ ปัจจุบันมีการนำข้อมูลความเสี่ยงทุจริตในปีงบประมาณ 2567 จำนวน 5,757 รายการ ไปทำอะไรต่อบ้าง เช่น มีการตรวจสอบภายใน หรือหาแนวทางป้องกันความเสี่ยงทุจริตหรือไม่ นอกจากนี้ อยากทราบความคืบหน้าเรื่องการจัดทำราคากลางเครื่องออกกำลังกาย โดยสรุปด้านตรวจสอบการทุจริตของ กทม.มีอะไรเป็นรูปธรรมแล้วบ้าง

 

นายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องทุจริตเป็นบทเรียนทั้งของ กทม.และสภา กทม. ต้องช่วยกันดูแล ดำเนินการอย่างรอบคอบ ในส่วนการลงนาม ตนได้ดำเนินการไปแล้ว ด้านการดำเนินการทางวินัยและแพ่ง ได้ทำตามระเบียบทุกอย่าง ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ เชื่อว่าปี 2568 สถานการณ์น่าจะดีขึ้น จากการร่วมมือกับ actai และหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนเรื่องจัดทำราคากลางเครื่องออกกำลังกายมีการตั้งคณะกรรมการไปแล้ว เรื่องทุจริตถือเป็นเรื่องใหญ่ หากต้องการข้อมูลจะมีการแจ้งในภายหลังต่อไป

 

นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า จากกรณีทุจริตเครื่องออกกำลังกายในปี 2567 เนื่องจากไม่มีราคากลาง จึง ทำให้เกิดช่องว่างในการสืบราคา จากการพูดคุยกับสำนักสิ่งแวดล้อมและสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ได้ข้อสรุปว่า จะใช้วิธีสืบราคาย้อนหลัง 4-5 ปี หากมีสำนักหรือหน่วยงานใดต้องการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ต้องสืบย้อนหลังว่าใน 5 ปีนั้น มีการจัดซื้อหรือไม่ และมีการจัดซื้อในราคาเท่าไร รวมถึงเปรียบเทียบราคาปัจจุบันกับราคา 5 ปีย้อนหลังว่ามีความแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด เวลาขอตั้งงบประมาณกำหนดให้ยึดราคาที่ต่ำที่สุดเป็นหลัก