วันที่ 14 ม.ค.68 พากันไปดูสนามเลือกตั้งเมืองสามหมอกจังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังจากเปิดให้มีการสมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.และสมาชิก อบจ. ตั้งแต่วันที่ 23 -27 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา และจะมีการเลือกตั้ง ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็น 24 เขตเลือกตั้ง โดยมีสมาชิกเขตเลือกตั้งละ 1 คน ใน 7 อำเภอ มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง จำนวน 174,889 คน มีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น นายก อบจ. จำนวน 2 คน ได้แก่ นายอัครเดช วันไชยธนวงศ์ เบอร์ 1 และนายดนุภัทร์ เชียงชุม เบอร์ 2 สำหรับผู้สมัครสมาชิก อบจ. มีจำนวน 57 ราย ประกอบด้วย อ.เมืองแม่ฮ่องสอน 12 คน , อ.แม่สะเรียง 13 คน, อ.สบเมย 9 คน, อ.ปาย 5 คน, อ.แม่ลาน้อย 9 คน, อ.ขุนยวม 6 คน และ อ.ปางมะผ้า 3 คน  คู่เดือด ชิงตำแหน่งนายกฯ ระหว่าง อัครเดช  วันไชยธนวงศ์ อดีตนายก อบจ.3 สมัยติดต่อกัน กับนายดนุภัทร์ เชียงชุม อดีตประธานสภา อบจ. ทั้งคู่เป็นผู้สมัครอิสระ ไม่ขึ้นตรงต่อพรรคการเมืองใด ๆ และไม่ต้องการพรรคการเมืองใดเข้ามาครอบงำหรือสนับสนุน  

นายอัครเดช วันไชยธนวงศ์ อายุ 58 ปี  เบอร์ 1 เข้าสู่การเมืองโดยการลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแม่ฮ่องสอน (สส.) สังกัดพรรคชาติไทย แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ต่อมาเบนเข็มมาเล่นการเมืองท้องถิ่นได้รับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอนครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2549   และได้รับเลือกตั้ง  ครองตำแหน่งนายก อบจ.3 สมัยติดต่อกัน แม้จะมีคู่แข่ง แต่ อัครเดช ฯ ก็สามารถ  รักษาแชมป์ไว้ได้ทุกครั้ง ทิ้งคะแนนห่างคู่แข่งแต่ละครั้ง หลายหมื่นคะแนน ครองแชมป์ 3 สมัย ติดต่อกัน

ส่วน นายดนุภัทร์ เชียงชุม อายุ 57 ปี เบอร์ 2 อดีตสมาชิกสภา อบจ.แม่ฮ่องสอน เขตพื้นที่ อ.ปาย และอดีต ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน  เคยเป็นผู้สมัคร สส.เขต 1 แม่ฮ่องสอน สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ผ่านการเลือกตั้ง  คะแนนอยู่อันดับ 3 ในการเลือกตั้ง สส.ที่ผ่านมา  และทราบว่าได้ย้ายจากพรรคประชาธิปัตย์ เข้าสังกัดพรรคการเมืองอีกพรรคหนึ่ง และตัดสินใจลงสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.แม่ฮ่องสอน

อย่างไรก็ตาม การลงชิงตำแหน่งนายก อบจ.แม่ฮ่องสอนในครั้งนี้ มีคู่ชิงเพียง 2 คน เรียกได้ว่ามัดต่อมัด จึงเป็นคู่ชิงที่สมน้ำสมเนื้อ วิเคราะห์ขั้นสุดท้าย อัครเดช  วันไชยธนวงศ์ สร้างฐานเสียงการเมืองท้องถิ่นมายาวนาน ฐานคะแนนเสียงมีทุกระดับ ทั้งท้องถิ่น ท้องถิ่น และมวลชนระดับรากหญ้า  มีผลงานช่วยเหลือดูแลประชาชนในพื้นที่มากมาย สามารถเก็บคะแนนเสียงได้ทุกอำเภอ เรียกได้ว่าขึ้นแท่นชูมืออย่างไม่ต้องสงสัย แต่จะประมาท นายดนุภัทร์ เชียงชุม ไปไม่ได้ ลงชิงครั้งนี้ ดนุภัทร์ ฯ บอกสู้เต็มที่ ถ้ามองถึงฐานเสียงก็ไม่น้อยหน้า ทั้งท้องถิ่น ท้องที่ และดนุภัทร์ ฯ เคยเป็นทั้งอดีต สจ.อดีต ประธานสภา อบจ. มาแล้ว มีผลงานดูแลช่วยเหลือประชาชนก็ไม่น้อย ทำให้การชิงตำแหน่งนายก อบจ.ในครั้งนี้น่าติดตามชม นายอัครเดช จะรักษาแชมป์ไว้ได้หรือไม่ นายดนุภัทร์ จะฝ่าด่านนายอัครเดช ไปได้อย่างไร อยู่ที่ประชาชนตัดสิน 1 ก.พ.68 รู้กัน