ชาวแอลเอยื่นฟ้องศาลเอาผิดการประปาและไฟฟ้าของเมือง จากเหตุน้ำไม่พอดับไฟป่า จนสร้างความเสียหายครั้งใหญ่แก่ผู้คน
เมื่อวันที่ 14 ม.ค.68 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประชาชนชาวสหรัฐฯ ที่อาศัยอยู่ในนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งได้รับผลกระทบจากไฟป่า ได้รวมตัวกันยื่นฟ้องต่อศาลชั้นต้นเทศมณฑลลอสแอนเจลิส หรือแอลเอเคาน์ตี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเอาผิดกับทางสำนักงานการประปาและไฟฟ้าของนครลอสแอนเจลิส หรือแอลเอดีดับเบิลยูพี จากการที่สำนักงานฯ ล้มเหลวในการบริหารจัดการอย่างเหมาะสม จนทำให้มีปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการดับไฟป่าที่กำลังลุกลามเผาไหม้อย่างรุนแรงจนถึง ณ เวลานี้
โดยในคำฟ้องข้างต้น ระบุว่า ทางสำนักงานฯ ควรคงปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำแซนตาอีเนซ ที่อยู่ใกล้กับบริเวณที่เกิดไฟป่า “พาลิเซดส์ไฟร์” ให้เพียงพอต่อการเจ้าหน้าที่นักผจญเพลิงใช้ดับไฟป่า แต่ปรากฏว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำดังกล่าว มีไม่เพียงพอ จนทำให้ไฟป่าเผาทำลายย่านแปซิฟิกพาลิเซดส์ ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.เป็นต้นมา
ทั้งนี้ อ่างเก็บน้ำแซนตาอีเนซ สามารถบรรจุน้ำได้ถึง 443 ล้านลิตร แต่ปรากฏว่า อ่างเก็บน้ำดังกล่าว ไม่มีน้ำมาตั้งแต่กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า การยื่นฟ้องข้างต้น มีขึ้นหลังจากที่นายแกวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เรียกร้องให้มีการสอบสวนสำนักงานแอลเอดีดับเบิลยูที เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่ผจญเพลิง ไม่มีน้ำใช้ดับเพลิง หรือมีแรงดันน้ำไม่มากพอที่จะใช้ดับไฟป่า
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานแอบเอดีดับเบิลยูที โดยนางเจนิส กิญโยนีส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ได้ออกมาแก้ต่างว่า เหตุไฟป่าที่เกิดขึ้นและลุกลามอย่างรวดเร็ว ได้กลายเป็นอุปสรรคต่อการเติมน้ำในถังเก็บน้ำในพื้นที่ด้วยเหมือนกัน และว่าก่อนหน้าที่จะเกิดพายุใหญ่เมื่อช่วงก่อนหน้า ทางสำนักงานฯ ได้เติมน้ำในถังเก็บน้ำจำนวน 3 ถัง ซึ่งถูกใช้ดับไฟป่าจนหมดภายในวันแรกที่มีปฏิบัติการดับไฟป่า