วันที่ 14 ม.ค.2568 เวลา 09.40 น.รัฐสภา นายอัครเดช​ วงษ์พิทักษ์โรจน์​ สส. ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)​ แถลงผลการประชุมพรรคฯว่า พรรคมีมติไม่เห็นด้วยร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา (ฉบับที่...) พ.ศ... ที่เสนอโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมรัฐสภาวันนี้​ เพราะการแก้ไขข้อที่ 123 เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเดิมจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเป็นสัดส่วนของสส.​และสว. 1 ชุด ไม่เกิน 45 คน​ แต่ที่พรรคประชาชนเสนอให้มีข้อบังคับที่ 123/1 เพิ่มให้มีบุคคลภายนอกเข้ามา เป็นกรรมาธิการร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวนไม่เกิน1ใน 3 พรรคไม่เห็นด้วยที่ให้มีการแก้ไขเช่นนี้

เนื่องจากคนที่จะเข้ามาพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญควรเป็นสมาชิกรัฐสภาเท่านั้น ควรเป็นบุคคลที่ประชาชนกลั่นกรองมาแล้ว เพราะรัฐธรรมนูญถือเป็นกฎหมายสูงสุด ซึ่งแตกต่างจากพระราชบัญญัติและกฎหมาย ต่างๆ  ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าการพิจารณาร่างกฎหมายเมื่อมีความเห็นไม่ตรงกัน ทั้ง​สส.​และสว.​ก็จะมีการตั้ง คณะกรรมาธิการร่วมกันของ 2 สภาเช่นร่างพ.ร.บ. ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ก็ไม่มีบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นกรรมาธิการด้วย       

นายอัครเดช กล่าวต่อว่า นอกจากนี้พรรคมติเห็นด้วยกับวิปรัฐบาล ในการพิจารณา ร่างพ.ร. บ. ภาษีสรรพสามิต​ (ฉบับที่..)​พ. ศ. ที่ กรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว จะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาฯ ​วาระ2 และ3 วันที่ 15 ม.ค. ซึ่งวิปรัฐบาลมีมติเห็นด้วยกับกมธ.ฯและข้อสังเกต​ เพื่อส่งเรื่องให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป​ เพราะถือเป็นกฎหมายสำคัญในการปฏิรูปการผลิต สุราของประเทศไทย และเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชน ผลิตสุราชุมชนได้ ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้​และสามารถรวมตัวเป็นสหกรณ์แปรรูปสินค้าทางการเกษตร เป็นการสร้างมูลค่าสินค้า ทางการเกษตรให้ดีขึ้น ซึ่งถือเป็นนโยบายของพรรครทสช.ในการเสนอ ร่างพ.ร.บ.สุรารวมไทยเข้าไปด้วย ดังนั้นในวันที่ 15 ม.ค. จะมีข่าวดี ให้กับพี่น้องประชาชน เพราะเป็นการปฏิวัติ วงการสุราไทยอีกครั้งหนึ่งในการลดทุนผูกขาด และสร้างความมั่นคงให้แก่ประชาชน     

นายอัครเดช​ ยังกล่าวถึงมติครม.อนุมัติหลักการร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทรนเมนต์คอมเพล็กซ์) ว่า​ ต้องนำเข้าที่ประชุมพรรคก่อน จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะมีผลกระทบ และเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานรวมถึงประชาชน ทั้งยังมีผลผูกพันกับกฎหมายอีกหลายฉบับ​ จึงต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ​ และการผ่านครม.​แล้ว ถือเป็นนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาล