เมื่อวันที่ 13 ม.ค.68 เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายพิชิต ไชยมงคล และนัสเซอร์ ยีหมะ นายใจเพชร กล้าจน แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) และกองทัพธรรม นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานกลุ่ม ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เข้ายื่นหนังสือถึงพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อสอบถามกรณีที่แพทยสภาได้ทำหนังสือถึงโรงพยาบาลตำรวจ เมื่อช่วงเดือน ธ.ค.67 เพื่อขอหนังสือแจ้งอาการป่วย และเวชระเบียน ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เข้าและออกจากโรงพยาบาลตำรวจ ที่ขณะนั้นเป็นผู้ป่วยรักษาตัวที่ชั้น 14 ซึ่งจะครบกำหนด วันที่ 15 ม.ค.68 ในการทำคำชี้แจง เป็นลายลักษณ์อักษร กลับมายังคณะอนุกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจของแพทยสภา โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ตำรวจสันติบาล และตำรวจสนสน.ปทุมวัน ประมาณ 100 นาย คอยดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร บริเวณด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
สำหรับบรรยากาศบริเวณด้านหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ามีกลุ่มมวลชน สวมใส่เสื้อสีเหลืองพร้อมมือตบ ป้ายข้อความต่างๆ แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อเรียกร้องให้ มีการเปิดเผยประวัติการรักษาของอดีตนายกรัฐมนตรี โดยมีพ.ต.อ.ณัฐณวิทย์ สิทธาภิรมย์ รองผู้บังคับการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะนายตำรวจเวรอำนวยการเป็นตัวแทนรับหนังสือ
ด้านนายพิชิต กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาเรียกร้อง ให้ ผบ.ตร. เร่งรัดในการ ติดตามส่งเวชระเบียนประวัติการรักษาของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมาให้แพทยสภา ซึ่งจะครบกำหนด ภายในอีก 2 วัน เบื้องต้นวันนี้จะไม่มีการพักค้างแรม ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มได้มีการติดตามทวงถาม ความคืบหน้ามาโดยตลอดแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ จึงเกรงว่าเรื่องดังกล่าวจะเงียบหายไป และหากครบกำหนดแล้วตัวเองจะเดินทางไปที่แพทยสภาเพื่อสอบถามว่าได้รับเอกสารดังกล่าวแล้วหรือไม่ และหากพบว่ายังไม่ได้รับคำตอบหรือข้อมูล ทางกลุ่มจะยกระดับเดินทางไปสอบถาม ข้อมูลกับน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 21 ม.ค.68
เพราะมองว่า น.ส.แพทองธาร กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งเรื่องดังกล่าวอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่กลับไม่มีคำตอบ"ในฐานะที่น.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องมีคำชี้แจง อีกทั้งเวชระเบียนประวัติผู้ป่วย มีความสำคัญมาก เพราะมีความสำคัญในการพิสูจน์ประวัติการรักษาที่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. หรือ แพทยสภา นำไปพิสูจน์ทราบข้อกล่าวหา ของนายทักษิณชินวัตรซึ่งถูกกล่าวหาก่อนหน้านี้ พร้อมยืนยันว่า การเรียกร้องดังกล่าวไม่ได้เป็นการเรียกร้องเพื่อให้ต้องการนำข้อมูลมาเปิดเผยกับกลุ่ม แต่เป็นการเรียกร้องเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบและเข้าถึงข้อมูลได้อย่างชัดเจน" นายพิชิต กล่าว
นายใจเพชร กล่าวว่า วันนี้ตัวเองพร้อมผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 70 คนได้เดินทางมาเป็นกำลังใจ ให้กับผบ.ตร. เพื่อผดุงความยุติธรรมดูแล ความสงบสุขของประเทศชาติ เพราะหากประเทศ ไม่มีความยุติธรรม ก็จะไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่น ให้กับนักลงทุนได้ ส่งผลกระทบกับระบบเศรษฐกิจ แต่หากกระบวนการยุติธรรมถูกรักษาไว้ทุกฝ่าย ก็จะมั่นใจ เพราะตัวเองมองว่ากรณีนี้หากนายทักษิณ มีความบริสุทธิ์ใจจริงก็จะต้องส่งข้อมูลการรักษา มาให้ตามการร้องขอ แต่หากไม่ส่งแสดงว่า มีความไม่ซื่อสัตย์ต้องเข้าข่ายกระทำความผิด โดยหากไม่มีความคืบหน้าทางกลุ่มจะยกระดับ การทำหน้าที่อาจจะมีการพักแรมที่บริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล จนกว่าจะเกิดความยุติธรรมในประเทศไทย เบื้องต้นมีการพูดคุยกับทุกกลุ่ม หากพบว่าความยุติธรรมถูกแทรกแซง จะต้องมีกระบวนการในการติดตามยุติธรรมต่อไป ซึ่งส่วนตัวมองว่าการชุมนุมในครั้งนี้ไม่ได้มองที่จำนวนผู้มาเข้าร่วม แต่มองว่าความสำเร็จคือเกิดความยุติธรรมขึ้นในกระบวนการยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังการยื่นหนังสือเสร็จสิ้น นายพิชิต ได้พูดคุยกับกลุ่มมวลชนที่มาร่วมแสดงจุดยืนที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนที่จะมีการสลายตัวแยกย้ายกันและได้นัดหมายกันใหม่ในวันที่ 15 ม.ค.นี้ ที่แพทยสภาเพื่อสอบถามความคืบหน้าต่อไป
ขอบคุณ เฟซบุ๊ก Aramsak Bootchoo
ขอบคุณภาพ เพจ คปท.