เมื่อวันที่ 11 ม.ค.68 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์เฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ระบุข้อความว่า

การปฏิรูปที่ดินเป็นเรื่องสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ แต่ปัจจุบันนี้ กฎหมายปฏิรูปที่ดินเป็นอุปสรรคอย่างร้ายแรง เพราะมีลักษณะวิปริต คือบังคับให้ที่ดินในเขตปฏิรูป ทำธุรกิจอย่างอื่นไม่ได้นอกจากเกษตรกรรม ซึ่งจำนวนมากขัดกับสภาพพื้นที่ และยังบังคับให้ ผู้อยู่อาศัยต้องเป็นคนยากจนเท่านั้น

ดังนั้นเพื่อนำเอาที่ดินประมาณ 60 ล้านไร่ ในเขตปฏิรูปที่ดิน มาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ รัฐบาลของประชาชน จึงจำเป็นต้องมีกฎหมายฉบับที่ 3 เพื่อการปฏิรูปที่ดินโดยมีหลักการดังนี้

ข้อ 1 ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินพ.ศ 2518

ข้อ 2 ให้ออกโฉนดที่ดิน แก่ผู้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเดิม รายละไม่เกิน 50 ไร่ โดยผู้ครอบครองทำประโยชน์ต้องชำระราคาแก่รัฐ ในอัตราร้อยละ 30 ของราคาประเมินที่ดิน นั้น โดยให้ผ่อนชำระ โดยไม่มีดอกเบี้ย ได้ไม่เกิน 50 ปี เว้นแต่ ผู้ครอบครองทำประโยชน์จะได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ได้ลงทุนในการพัฒนาที่ดินนั้น เป็นมูลค่าเกินกว่าร้อยละ 50 ของราคาที่ดินนั้น ก็ให้ออกโฉนดที่ดิน แก่ผู้ครอบครองทำประโยชน์ได้

ข้อ 3 บรรดาผู้บุกรุกที่ดิน

สปก.เดิม และมีความประสงค์จะได้รับกรรมสิทธิ์ที่ดินที่บุกรุกนั้น ให้ขอซื้อได้ในราคา ตามข้อ 2 และเมื่อได้ชำระราคาแล้ว ให้นิรโทษกรรมบรรดาความผิดใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุกที่ดินนั้นเสียทั้งสิ้น ไม่ว่า คดีจะอยู่ในระหว่างดำเนินการชั้นใด ในกรณีอยู่ระหว่างดำเนินการ ชั้นสอบสวนหรือชั้นศาลก็ให้จำหน่ายคดีนั้นเสีย และมีถ้ามีคำพิพากษาถึงที่สุด ว่ากระทำความผิด ก็ให้ถือว่า ไม่มีไม่เคยต้องคำพิพากษาเช่นนั้น และถ้าต้องรับโทษอยู่ก็ให้พ้นโทษได้ทันที

ข้อ 3 รายได้จากการออกโฉนดที่ดินดังกล่าว ให้นำเข้าบัญชีเงินคงคลังบัญชีที่ 1 ตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง

ข้อ 4 ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินแปลงใด ไม่มีผู้ขอซื้อ ให้ออกโฉนดให้แก่กรมธนารักษ์