เริ่มใช้อย่างเป็นทางการกับค่าแรงขั้นต่ำใหม่ให้กับพี่น้องผู้ใช้แรงงานที่ “รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบให้เป็นของขวัญปีใหม่ 2568 โดยปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้นวันละ 7 - 55 บาท เป็นอัตราวันละ 337 - 400 บาท และ กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาท นำร่องใน 4 จังหวัด 1 อำเภอ ได้แก่ จ.ภูเก็ต ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 ส่วนจังหวัดอื่น ๆ จะทยอยปรับตามต่อไป

ซึ่งการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในครั้งนี้ ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งด้านลบ และด้านบวก ทั้งจากนายจ้าง  และลูกจ้าง เป็นเรื่องปกติ!!!

โดยทางกระทรวงแรงงาน “บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์” ปลัดกระทรวงแรงงาน ออกมาชี้แจงการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำว่า ครั้งนี้การทำงานของทั้ง 3 ฝ่ายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่มีแตกแยก บรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างหวานชื่น ซึ่งการพิจารณามีการนำสูตรมาพิจารณาการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และข้อเท็จจริงสภาพเศรษฐกิจของจังหวัดนั้น ๆ มาพิจารณา

สำหรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ เป็นดังนี้ 1.อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 4 จังหวัด 1 อำเภอ ได้แก่  ภูเก็ต (370) ,ฉะเชิงเทรา (350) ,ชลบุรี (361) ,ระยอง (361) ,เฉพาะอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี (345) ,2. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 380 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 2 อำเภอ ได้แก่ เฉพาะอำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ (350) และเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา (345) ,3. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 372 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 6 จังหวัด ได้แก่ ,กรุงเทพมหานคร (363) ,นครปฐม (363) ,นนทบุรี (363) ,ปทุมธานี (363) ,สมุทรปราการ (363) และสมุทรสาคร (363) ,4.อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 359 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 1 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา (352) ,5. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 358 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 1 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสงคราม (351) ,6. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 357 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น (350) ,เชียงใหม่ ยกเว้นอำเภอเมืองเชียงใหม่ (350) ,ปราจีนบุรี (350) ,พระนครศรีอยุธยา (350) และสระบุรี (350) ,7. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 356 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 1 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี (349)

8. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 355 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 3 จังหวัด ได้แก่ นครนายก (348) ,สุพรรณบุรี (348) และหนองคาย (348) ,9. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 354 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 2 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ (347) และตราด (347) ,10. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 352 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 15 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี (345) ,จันทบุรี (345) ,เชียงราย (345) ,ตาก (345) ,นครพนม (345) ,บุรีรัมย์ (345) ,ประจวบคีรีขันธ์ (345) ,พังงา (345) ,พิษณุโลก (345) ,มุกดาหาร (345) ,สกลนคร (345) ,สงขลา ยกเว้นอำเภอหาดใหญ่ (345) ,สระแก้ว (345) ,สุราษฎร์ธานี ยกเว้นอำเภอเกาะสมุย (345) และอุบลราชธานี (345) ,11. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 351 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 3 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร (344) ,เพชรบุรี (344) และสุรินทร์ (344) ,12. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 350 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 3 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ (343) ,ยโสธร (343) และลำพูน (343) ,13. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 349 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ (342) ,นครศรีธรรมราช (342) ,บึงกาฬ (342) ,เพชรบูรณ์ (342) และร้อยเอ็ด (342) ,14. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 348 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท (341) ,ชัยภูมิ (341) ,พัทลุง (341) ,สิงห์บุรี (341) และอ่างทอง (341) ,15. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 347 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 16 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร (340) ,พิจิตร (340) ,มหาสารคาม (340) ,แม่ฮ่องสอน (340) ,ระนอง (340) ,ราชบุรี (340) ,ลำปาง (340) ,เลย (340) ,ศรีสะเกษ (340) ,สตูล (340) ,สุโขทัย (340) ,หนองบัวลำภู (340) ,อำนาจเจริญ (340) ,อุดรธานี (340) ,อุตรดิตถ์ (340) และอุทัยธานี (340) ,16. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 345 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ ตรัง (338) ,น่าน (338) ,พะเยา (338) และแพร่ (338) ,17. อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 337 บาทต่อวัน ประกอบด้วย 3 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส (330) ,ปัตตานี (330) และยะลา (330)

ทั้งนี้การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำครั้งนี้หนีไม่ได้กับความกังวลในเรื่องของค่าใช้จ่ายประจำวันที่จะมีการปรับขึ้นเป็นเงาตามตัวเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา!!!

“นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์” ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในครั้งนี้ มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อค่อนข้างน้อย เนื่องจากปัจจัยด้านมาตรการช่วยเหลือลดค่าครองชีพของภาครัฐ รวมทั้งอุปสงค์ในประเทศมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ และลดภาระหนี้สินครัวเรือน ทำให้การจับจ่ายของประชาชนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้และกำไรสุทธิของผู้ประกอบการ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการ

ขณะที่นักวิชาการโดย  “ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ” คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ อดีตกรรมการสภาการศึกษา ให้ความเห็นว่า นโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและเงินเดือนขั้นต่ำไม่ก่อปัญหาต้นทุนต่อภาคธุรกิจและภาคการผลิต ค่าแรงขั้นต่ำที่ต้องปรับตัวขึ้นสูง เป็นเพียงแนวโน้มสำคัญหนึ่งของตลาดแรงงานไทยและตลาดแรงงานในเอเชียเท่านั้น ยังมีแนวโน้มอื่น ๆ เช่น การใช้ระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์หรือสมองกลอัจฉริยะแทนแรงงานมนุษย์ ธุรกิจอุตสาหกรรมต้องปรับตัวต่อแนวโน้มต่าง ๆ รัฐต้องมีนโยบายและมาตรการอันเหมาะสมในการตอบสนอง ไม่เช่นนั้นแล้วจะสร้างปัญหาทางเศรษฐกิจในมิติใดมิติหนึ่งได้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ความสามารถในการแข่งขัน และความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ

ด้านมุมมองนายจ้าง “บุญอนันต์ พัฒนสิน” นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา มองว่า จากการประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาล ส่งผลต่อการเพิ่มต้นทุนของผู้ประกอบการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยค่าแรงถือเป็นต้นทุนหลักในทุกภาคธุรกิจที่ต้องพึ่งพาแรงงาน ทั้งนี้เรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณานโยบายช่วยเหลือผู้ประกอบการ ในการชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการขึ้นค่าแรง รวมถึงค่าภาษี ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และค่าใบอนุญาตประกอบการ

ด้านผู้ใช้แรงงาน “มนธิชา สนิทกลาง” ผู้ใช้แรงงานในพื้นที่เมืองพัทยา กล่าวว่า ดีใจที่ค่าแรงขึ้น 400 บาท เนื่องจากราคาสินค้าต่างๆ มีการขึ้นราคาเยอะมาก และอยากให้ขึ้นค่าแรงให้เร็วที่สุด ตามนโยบายที่ตั้งเอาไว้

ค่าแรงขั้นต่ำเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องมองให้รอบด้านทั้งนายจ้าง-ลูกจ้าง!!!

เอาใจเขามาใส่ใจเรา แล้วทุกอย่างจะไปได้ดี!!!