วันที่ 10 ม.ค.68 ที่ห้องบางกอก ชั้น B2 อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการ กทม.ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีมอบโอวาทให้แก่นักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครตามโครงการเด็กดีศรี กทม. เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ โดยมีคณะผู้บริหาร กทม. ผู้บริหารสำนักการศึกษา คณะครูและนักเรียน เข้าร่วม
โดยนายชัชชาติ น้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานให้ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ความว่า ความเป็นผู้รู้จักเวลา เป็นรากฐานสำคัญ ที่ทำให้คนเราสามารถดูแลรับผิดชอบตนเองได้ อันจะนำไปสู่ความสำเร็จที่สูงขึ้นต่อไปในอนาคต เด็กทุกคนจึงควรได้รับการปลูกฝังให้เป็นผู้รู้จักเวลา รู้ว่าเวลาใดควรปฏิบัติสิ่งใด แล้วปฏิบัติให้ตรงเวลา ทันเวลา เหมาะแก่เวลาเสมอ
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า เวลาเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด หลายอย่างเกี่ยวกับเวลา ทั้งนิสัย การปฏิบัติตัว และ ชีวิตพร้อมกับตั้งคำถามแฝงข้อคิดกับเด็ก ๆ ที่มาร่วมงาน จำนวน 4 คำถาม ประกอบด้วย 1.ชีวิตเราจะดีขึ้นได้เพราะใคร คำตอบคือ ตนเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด วันเด็กต้องเปลี่ยนตนเองให้ดีขึ้น
2.อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น คือ นิสัย ทำได้โดยอัตโนมัติ สำคัญยิ่งกว่าของเล่น เงิน และเพื่อน เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ที่อยู่กับเราตลอดเวลา จึงต้องพัฒนานิสัยที่ดี เพื่ออนาคตที่ดีขึ้น 3.อะไรที่ทุกคนมีเท่ากันหมด คำตอบคือ เวลา ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้เวลาให้มีประโยชน์อย่างไร และ 4.วันเด็กปีนี้อยากเปลี่ยนแปลงอะไร ซึ่งมีตัวเลือกให้หลายอย่าง เช่น ไม่แกล้งเพื่อน อ่านหนังสือทุกวัน แยกขยะ ช่วยเหลือคนอื่น ตั้งใจเรียน เริ่มกินผักและผลไม้ ช่วยพ่อแม่ทำงาน และไม่โกหก
นายชัชชาติ ทิ้งท้ายว่า วันนี้ไม่ได้ให้โอวาท เพราะผู้ว่าฯกทม. ไม่ใช่ผู้วิเศษ ขอให้ทุกคนคิดถึงความสำคัญของเวลา นิสัย ชีวิตเปลี่ยนได้ด้วยนิสัยดี ๆ เริ่มได้ทันทีไม่ต้องให้ครู พ่อแม่ หรือผู้ว่าฯ กทม.ถามว่ากี่โมง
นอกจากนี้ นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ฝุ่นว่า สถานการณ์เริ่มดีขึ้น เพราะอากาศเปิด ให้ทีมงานไปพิจารณาช่วงวันที่ 15 ม.ค. อากาศปิดจริงหรือไม่ เพราะอาจแนะนำให้ WFH ซึ่งประชาชนสามารถเลือกได้ ไม่ได้บังคับ การ WFH จะช่วยให้ปริมาณการจราจรลดลง ทำให้การปล่อยก๊าซลดลงไปด้วย ในส่วนของ กทม. โรงเรียน กทม.มีห้องปลอดฝุ่นทุกแห่ง นักเรียน กทม. เข้าใจเรื่องฝุ่นเป็นอย่างดี มีการชักธงแจ้งเตือนเมื่อมีค่าฝุ่นสูงขึ้น นอกจากนี้ยังได้จัดสรรเครื่องฟอกอากาศลงไปยังศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนทุกแห่งด้วย นอกจากนี้ กทม.ยังมีอีกหลายโครงการเพื่อลดปัญหาฝุ่น อาทิ โครงการคลินิกรถลดฝุ่น PM2.5 โครงการ Green List หรือบัญชีสีเขียว เป็นต้น
จากนั้น ผู้แทนนักเรียนในโรงเรียนสังกัด กทม. จำนวน 100 คน เข้าเยี่ยมชมห้องทำงานและนั่งเก้าอี้ ของผู้ว่าฯกทม. ที่ชั้น 32 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกทม.ดินแดง พร้อมทั้งรับของขวัญวันเด็กจากผู้ว่าฯ กทม.ด้วย