เมื่อวันที่ 9 ม.ค.68 นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก "ทนายเกิดผล แก้วเกิด" ระบุว่า อาจารย์เบียร์ชอบพูดว่า ทุกสิ่งเป็นไปตามเหตุ ตามปัจจัย ไม่มีใครทำอาจารย์ได้ เพราะอาจารย์ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
ผมอยากจะบอกกับอาจารย์เบียร์ว่า อาจารย์เบียร์อาจจะรู้จักกฎหมายไทยน้อยไปครับ
ศาลไทยไม่ได้พิจารณาคดีจากพระไตรปิฎก แต่พิจารณาจากพยานหลักฐาน
สิ่งที่อาจารย์ต้องเร่งขนขวาย เมื่อถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด คือพยาน หลักฐาน ที่จะใช้ในการต่อสู้คดี
การใช้ศีลธรรม กับวาทกรรมของพุทธวจนะ เมื่อใช้ในการต่อสู้คดีน่าจะไม่รอด
อาจารย์ เคยได้ยินคำว่า ผู้บริสุทธิ์ติดคุก ก็มากมีไหมครับ
บ้านเราเป็นระบบกล่าวหา สามารถจับกุมก่อนที่เค้าจะหาหลักฐานได้ถ้าหาหลักฐานไม่ได้ก็ปล่อยตัวไป แต่คนเดือดร้อนคือคนที่ถูกจับ
การใช้ความดี ไม่เพียงพอต่อการต่อสู้คดีในศาลนะครับ
อาจารย์ต้องมีทั้งทนายที่ดีมีฝีมือ และต้องมีพยานหลักฐานในการต่อสู้
สิ่งที่อาจารย์ต้องเร่งหา ไม่ใช่การเดินสายออกไปการโทรทัศน์ แต่คือการเร่งหาพยานหลักฐาน เช่น
ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นเบื้องสูงโดยมีการนำคลิปตัดต่อไปใช้อ้างอิง
อาจารย์ก็ต้องเร่งหาคลิปฉบับเต็มพร้อม ถอดถ้อยคำในคลิปไว้เป็นหลักฐานส่งมอบต่อพนักงานสอบสวนหรือคล้องขอความจำต่อพนักงานอัยการ
อาจารย์จะพูด แต่เพียงว่ากูบริสุทธิ์ พระพุทธเจ้าเป็แบ็คกู ไม่ได้นะครับ อาจารย์ไม่รอดนะ