ศาลออกหมายจับ จ่าเอ็ม มือลั่นไกสังหาร อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านกัมพูชา เสียชีวิตกลางกรุง ผบช.น. ยังไม่ระบุชี้ชัดเป็นปม การเมือง หรือขัดแย้งส่วนตัว เชื่อมีคนชี้เป้า เป็นมือปืนรับจ้าง ด้าน กัณวีร์ เชื่อเหตุยิงอดีต สส.กัมพูชาเป็นมาตรการกดปราบ จี้ นายกฯ เร่งสางคดี อย่าตกเป็นเครื่องมือ ขณะที่ ฝ่ายค้าน ผวา! จี้ สภาฯ คุมเข้มรักษาความปลอดภัย
       
       
         จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ ยิงนายลิม กิมยา อายุ 74 ปี อดีต สส.ฝ่ายค้าน พรรค Cambodia National Rescue ถือสัญชาติฝรั่งเศส-กัมพูชา เสียชีวิต บริเวณตรงข้ามวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ถนนบวรนิเวศน์ แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม. เมื่อวันที่ 7 ม.ค.68 
       
         ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ม.ค.68 พล.ต.ท. สยาม บุญสม ผบช.น.เปิดเผยว่า ขณะนี้ทราบตัวของผู้ก่อเหตุดังกล่าวแล้วว่าเป็นใคร ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุ ยังไม่สามารถระบุชี้ชัดได้ ว่ามาจากเรื่องอะไร ส่วนกระแสข่าวลือที่ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ เชื่อว่ายังไม่ถึงขั้นนั้น อาจเป็นประเด็นเรื่องของความขัดแย้งส่วนตัวก็ได้ ส่วนการก่อเหตุจะมีผู้ร่วมขบวนการหรือไม่ อยู่ระหว่างการขยายผล
       

 ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ พบว่ามีการมาเฝ้าสังเกตการณ์ รอลงมือก่อนที่เหยื่อจะเดินทางมาถึง ซึ่งตรงกับข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิด และมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับผู้ต้องหา ทั้งนี้ได้รายงานพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.รับทราบแล้ว และสั่งกำชับให้ติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะเป็นเหตุอุกอาจกลางเมืองและเป็นแหล่งท่องเที่ยว 
         

เบื้องต้นจากการสืบสวน เป็นมือปืนรับจ้าง และจากข้อมูลน่าจะมีคนชี้เป้า แต่ขออนุญาตยังไม่บอกว่าเป็นใคร หรือเป็นคนสัญชาติไหน เนื่องจากกลัวว่าคนร้ายจะติดตามการเคลื่อนไหวของตำรวจเช่นกัน ก็จะทำให้ทำงานยาก ส่วนมูลเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้ ทางตำรวจตั้งประเด็นไว้หลายข้อ ยังไม่ตัดทิ้ง 
         

ล่าสุด ศาลอาญารัชดา ได้อนุมัติออกหมายจับนายเอกลักษณ์ ตามหมายจับที่ 84/2568 ลงวันที่ 8 ม.ค.68 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ,พกอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดซึ่งใช่เหตุในเมือง


         ที่รัฐสภา นายกัณวีร์ สืบแสงสส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรียกว่าการกดปราบ ข้ามชาติ ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่ใช่กรณีแรก เป็นการที่ผู้ลี้ภัยหนีการประหัตประหาร จากประเทศ 1 มาอีกประเทศหนึ่ง และมีการร่วมมือกันไม่ว่าจะเป็นอย่างเปิดเผยหรือในทางลับ ทำให้เกิดการกดปราบข้ามชาติ และขอเรียกร้องไปยังนายกฯ ว่าการคุ้มครองระหว่างประเทศโดยเฉพาะผู้ลี้ภัยในประเทศไทย ว่าแม้ประเทศไทยจะยังไม่ลงสัตยาบัน ในอนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัย แต่เรามีทั้งกฎหมายระหว่างประเทศและในประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ซึ่งอย่างไรต้องรับผิดชอบอยู่แล้วเพราะมีคนมาตายในประเทศไทย แต่ต้องขยายความให้ได้ว่าเขาเป็นผู้ลี้ภัยจริงหรือไม่แต่เราต้องให้ความคุ้มครองคนที่อยู่ในประเทศไทยไม่ว่าเขาจะสัญชาติอะไร ซึ่งการที่ผู้ลี้ภัยทางการเมืองมาเสียชีวิตในประเทศไทยมีมานานแล้ว เรื่องก็เงียบมานานแล้ว เพราะฉะนั้นจะต้องไม่เงียบอีกต่อไป
     

   ขณะที่ นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. พรรคประชาชน แถลงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งติดตามและจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุยิงนายลิม โดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ต่างชาติมองประเทศไทยว่าเป็นแหล่งส่องสุมของอาชญากร อย่างไรก็ตาม ในการประชุมสภาฯในช่วงการหารือถึงปัญหาความเดือดร้อนของสส.ในพื้นที่ นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้หารือถึงการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่รัฐสภา ว่า วันนี้ (8 ม.ค.) ตนเดินทางเข้าสภาเมื่อ 07.30 น. ไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตรวจอาวุธ และในเวลาดังกล่าวมีคนเดินตามหลังตนไม่มีการสแกนกระเป๋า ดังนั้นหาเขาซุกปืนจะสามารถเข้ามาเดินเล่นในสภาฯได้สบาย ที่ผ่านมาในต่างประเทศมีเหตุการณ์ไล่ยิงประชาชน ไล่ยิงนักเรียน ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ในรัฐสภา เพราะหากเกิดขึ้นคงเป็นข่าวโด่งดัง ดังนั้นอยากให้เข้มงวดระบบรักษาความปลอดภัยในพื้นที่รัฐสภา โดยต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญหาจุดบกพร่องในรัฐสภาด้วย