เมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 ม.ค.68 พนักงานสอบสวน สภ.ชะเมา อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุฆาตกรรม ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งหมู่ 14 ต.ท่าเรือ อ.เมือง พบศพนายอุทัย อายุ 68 ปี นอนหงายเสียชีวิตอยู่ในห้องครัว สภาพถูกเชือดคอเกือบขาด เลือดไหลนองเต็มบริเวณ เจ้าหน้าที่รับการยืนยันจากพยานใกล้เคียงว่าผู้ก่อเหตุคือ นายกรรชิตพล เป็นลูกเขยของนายอุทัย หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปด้วยรถยนต์
ก่อนเกิดเหตุระหว่างเวลาประมาณ 02.00-03.00 น. มีชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้ยินเสียงและพบเห็น นายกรรชิตพล ผู้ต้องหา ได้ขับรถยนต์ไปที่บ้านเกิดเหตุแล้วเรียกให้นายอุทัย พ่อตาเปิดประตู บอกว่าจะมาเอาแมว หลังจากนายอุทัย เปิดประตูเข้าไปปรากฏว่าได้มีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงแล้วเสียงเงียบไป เพียงครู่เดียว ก่อนนายกรรชิตพล จะขับรถออกไป กระทั่งเช้าญาติมาเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบจึงงัดหน้าต่างเข้าไปดูพบร่างนายอุทัย ถูกฆ่าปาดคอเสียชีวิตแล้ว
นางบุญจวง ภรรยาของนายอุทัย แม่ยายของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ช่วงเย็นเมื่อวาน (7 ม.ค.68) ได้กลับจากเฝ้าไข้ลูกสาวซึ่งเป็นภรรยาของนายกรรชิตพล ที่โรงพยาบาล ในครอบครัวต่างรู้อยู่ว่าลูกเขยติดยาเสพติดและคลั่งอาละวาดอยู่เป็นประจำ จึงไม่นอนบ้านหลังที่เกิดเหตุ เพราะกลัวว่าลูกเขยจะมาทำร้ายเนื่องจากมีการขู่ฆ่าบ่อยครั้ง แต่นายอุทัย สามีไม่ยอมไปนอนที่อื่นจึงนอนคนเดียวที่บ้านเกิดเหตุ กระทั่งมาถูกลูกเขยฆ่าอย่างโหดเหี้ยม
ส่วนลูกสาวตัวเอง ภรรยาผู้ก่อเหตุป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจากที่มีสามีคุ้มคลั่งยาเสพติด ติดยาอย่างหนัก ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ก่อนหน้านี้ 1 วัน นายกรรชิตพล เมายาแล้วไปอาละวาดที่โรงพยาบาลขณะภรรยารักษาตัวอยู่จนวุ่นวายไปหมด กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ม.ค.68) ได้กลับไปที่บ้านเกิดเหตุซึ่งมีนายอุทัย พ่อตานอนอยู่ตามลำพัง ส่วนแม่ยายไปขอนอนบ้านญาตินึกไม่ถึงว่าจะถึงขั้นนี้
ต่อมามีรายงานว่าช่วงกลางดึก หลังจากนายกรรชิตพล ก่อเหตุแล้วก็ได้กลับไปที่บ้านพ่อแม่ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 7 กม. โดยทางพ่อแม่น่าจะรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจให้ไปจับกุม แต่เมื่อตำรวจไปถึงนายกรรชิตพล ได้หลบหนีไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามในช่วงเวลา 09.00 น.ของวันนี้ (8 ม.ค.68) ทางตำรวจทราบว่านายกรรชิตพล ไปทำแผลที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช จึงเข้าทำการจับกุมตัวไว้ได้แล้ว